ทำไมชื่อของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ จึงทรงความหมายเป็นอย่างสูงในสถานะอันเป็น “แคนดิเดต” นายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย
1 เพราะเกียรติภูมิของ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์
ขณะเดียวกัน 1 เพราะฐานทางการเมืองอันแข็งแกร่งและมั่น คงของพรรคเพื่อไทย
เมื่อ 2 ส่วนนี้ประกอบเข้าเป็นเนื้อเดียวกัน จุดเด่นอันมีอยู่กับพรรคเพื่อไทย และนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ก็ก่อให้เกิดแนวโน้มใหม่ในทางการเมือง
ความหวังและความมั่นใจของสังคมก็เอนไปทาง นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ อย่างพร้อมเพรียงกัน
พลอยทำให้ชื่ออื่นๆตกเป็นรองไปโดยอัตโนมัติ
การเมืองเป็นเรื่องของสังคม เป็นกระบวนการไหวเคลื่อนในทางสัง คมอันยิ่งใหญ่ ในที่สุดแล้วก็คือ ขบวนการขับเคลื่อนของ “มวลชน”
กระนั้น ก็ต้องยอมรับว่าการเคลื่อนไหวในทางสังคมสัมพันธ์กับองค์กรที่มีการจัดตั้งอย่างแข็งแกร่งและมั่นคง ประสานกับบทบาทของตัวบุคคลที่อยู่ภายในองค์กรนั้นๆ
Advertisement
คนอย่าง ดร.ซุนยัตเซ็น จึงสามารถก่อให้เกิดปรากฏการณ์อันนำไปสู่การปฏิวัติซิงไฮ่เมื่อเดือนตุลาคม 1910
คนอย่าง เหมาเจ๋อตง จึงสามารถนำพาพรรคกุงฉานตั๋งที่ประ สบความพ่ายแพ้ตั้งแต่ถูกล้อมปราบเมื่อเดือนเมษายน 1927 กระ ทั่งได้รับชัยชนะอย่างเบ็ดเสร็จต่อก๊กมินตั๋งในเดือนตุลาคม 1949
พลังของ ดร.ซุนยัตเซ็น จึงต้องประสานกับองค์กรจัดตั้งอย่าง เข้มแข็งของก๊กมินตั๋ง
พลังของ เหมาเจ๋อตง จึงประสานกับองค์กรจัดตั้งอย่างเข้มแข็งของกุงฉานตั๋ง
จึงสามารถนำ”เม็ดทราย”ที่ร่วนซุยมาเป็น”เอกภาพ”
เมื่อสามารถสร้างเอกภาพในองค์กรจัดตั้งให้แข็งแกร่งและมั่นคงก็จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่พร้อมกับชัยชนะอันงดงาม
แม้การเมืองจะเป็นเรื่องของการเคลื่อนไหวมวลชนอันกว้างใหญ่ไพศาล แต่ภายในกระบวนการเคลื่อนไหวก็มิอาจปฏิเสธบทบาท การนำได้อย่างเด็ดขาด
ในที่สุดแล้วคือการประสาน”บุคคล”กับ”องค์กร”
การเมืองของพรรคเพื่อไทย หรือไทยรักษาชาติ ก็เช่นกัน