หนักแผ่นดิน : บทบรรณาธิการ – กระแสที่ผู้นำกองทัพรณรงค์ให้เปิดเพลง “หนักแผ่นดิน”ตามหน่วยทหาร ในช่วงเวลานี้ ก่อให้เกิดข้อสงสัยและการถกเถียงไม่น้อยในสังคม เนื่องจากเป็นเพลงย้อนยุคที่มีลักษณะเฉพาะตามช่วงเวลาในอดีต มีลักษณะแบ่งแยกประชาชนอย่างเด็ดขาด มีกรอบความคิดที่ไม่เปิดกว้าง และทำให้เกิดการหวาดระแวงต่างชาติ

กรมการสื่อสารทหารบก กองทัพบก เคยเปิดเพลงนี้ช่วงปี พ.ศ.2518-2523 เพื่อต่อสู้ทางการเมืองกับขบวนการคอมมิวนิสต์ และสร้างกระบวนการชาตินิยม

แต่ปัจจุบันไม่มีองค์ประกอบหรือบรรยากาศแวดล้อมใดๆ ตามแบบในเพลง แม้แต่ลัทธิคอมมิวนิสต์ก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่เคยถูกสร้างภาพ และประเทศไทยก็มีสัมพันธ์อันดีกับชาติคอมมิวนิสต์หลายประเทศ

คําสั่งของผู้นำกองทัพให้ภายในหน่วยทหาร เปิดเพลงหนักแผ่นดิน ระบุว่ามีจุดประสงค์ให้ทหารตระหนักในการทำหน้าที่ของตัวเอง สำนึกต่อความรับผิดชอบต่อบ้านเมือง เพราะที่ผ่านมามีบางฝ่ายวิพากษ์วิจารณ์แล้วนำข้อมูลที่บิดเบือนมาโจมตี เพื่อสร้างความเข้าใจผิดกับการปฏิบัติงานของรัฐบาลและกองทัพ

แต่ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจาก มีพรรคการเมืองหาเสียงด้วยนโยบายลดงบประมาณด้านกลาโหมลง จึงดูเหมือนเป็นการตอบโต้ทางการเมือง ซึ่งไม่ควรเกิดขึ้น

เนื่องจากกองทัพเป็นหน่วยราชการที่ควรดำรงสถานะแห่งความเป็นกลาง และให้ประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจเองในการใช้สิทธิเลือกตั้ง

ประเด็นที่ควรใคร่ครวญให้ดีคือ ประวัติศาสตร์ของเพลงหนักแผ่นดินนั้น เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมือง รวมถึงเหตุการณ์ 6 ตุลาฯ 2519 ที่เป็นทั้งรอยด่างและรอยแผลใหญ่ที่ควรต้องเรียนรู้และหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด ขึ้นอีก

การที่พรรคการเมืองนำเสนอนโยบายด้านงบ ประมาณการใช้จ่ายด้านอาวุธ ไปจนถึงกำลังพล เป็นไปตามธรรมชาติของระบอบประชาธิปไตยที่ต้องนำเสนอประเด็นที่เป็นทางเลือก สำหรับประชาชน

ส่วนประชาชนจะเลือกหรือไม่ ต้องผ่านการคิดพิจารณาและชั่งน้ำหนักเองว่า เหมาะสมกับสภาพบ้านเมือง สถานการณ์โลก หรือเศรษฐกิจของประเทศหรือไม่

ไม่จำเป็นต้องชี้ว่าใครเป็นฝ่ายหนักแผ่นดิน