จารึกพระสุพรรณบัฏ แกะพระราชลัญจกร : คอลัมน์รู้ไปโม้ด
จารึกพระสุพรรณบัฏ แกะพระราชลัญจกร – พระราชพิธีบรมราชาภิเษก มีการจารึกพระสุพรรณบัฏและพระราชลัญจกรเป็นอย่างไรคะ
สมกมล
ตอบ สมกมล
คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์งานพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เผยแพร่ความรู้ ดังนี้
การจารึกพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาล ต้องกระทำตามฤกษ์ในตอนเย็นหรือค่ำก่อนถึงวันพระฤกษ์ พระสงฆ์จะเจริญพระพุทธมนต์ และโหรหลวงสวดบูชาเทวดาในพระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
รุ่งขึ้นตอนเช้าเมื่อพระสงฆ์รับพระราชทานฉันแล้ว พระราชวงศ์ที่ทรงเป็นประธานทรงจุดเทียนเครื่องนมัสการ ทรงศีล ผู้ที่จะจารึกและแกะพระราชลัญจกรนุ่งขาว สวมเสื้อขาว และมีผ้าขาวเฉวียงบ่า รับศีล เวลาใกล้พระฤกษ์ประธานทรงจุดเทียนเงินเทียนทอง ผู้ที่จะจารึกและช่างนมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร บ่ายหน้าไปกราบถวายบังคมสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว แล้วคล้องสายสิญจน์หันหน้าสู่มงคลทิศ
Advertisement
ครั้นได้พระฤกษ์โหรหลวงลั่นฆ้องชัยให้สัญญาณ ลงมือจารึกและแกะพระราชลัญจกร พระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์และพิณพาทย์ขณะจารึกและแกะพระราชลัญจกร เมื่อเสร็จแล้วพราหมณ์หลั่งน้ำสังข์และเจิมทั้งแผ่นพระสุพรรณบัฏ ดวงพระบรมราชสมภพ และพระราชลัญจกร
พระสุพรรณบัฏจารึกพระปรมาภิไธยเป็นแผ่นทองคำ มีขนาดกว้างยาวพอที่จะจารึกพระปรมาภิไธยได้ เช่น ในสมัยรัชกาลที่ 6 พระสุพรรณบัฏกว้าง 7 นิ้ว ยาว 14 นิ้ว พระสุพรรณบัฏนี้จะต้องทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีบรมราชาภิเษก โหรหลวงจึงต้องกำหนดพระฤกษ์อันเป็นมงคลสำหรับการจารึกก่อนการพระราชพิธี
พิธีจารึกกระทำที่พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม มีการเจริญพระพุทธมนต์และการบูชาเทวดาในตอนเย็นก่อนถึงวันพระฤกษ์ รุ่งขึ้นถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ อาลักษณ์ผู้ทำหน้าที่จารึกนุ่งขาว สวมเสื้อขาว มีผ้าขาวเฉวียงบ่า รับศีล นมัสการพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากรและกราบถวายบังคมไปทางสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวก่อนการจารึก ขณะจารึกพระสงฆ์สวดชัยมงคลคาถา พราหมณ์เป่าสังข์ เจ้าพนักงานประโคมแตรสังข์และพิณพาทย์
เมื่อจารึกเสร็จพราหมณ์หลั่งน้ำสังข์และเจิมพระสุพรรณบัฏ ม้วนแล้วพันด้วยไหมเบญจพรรณและพันด้วยแพรแดงอีกชั้นหนึ่ง บรรจุในพระกรัณฑ์ (พระ–กะ–รัน) ทองคำลงยาราชาวดี ก่อนจะเวียนเทียนสมโภชต่อไป
พระปรมาภิไธยที่จารึกลงในพระสุพรรณบัฏ แต่เดิมมาเป็นพระปรมาภิไธยที่มีความยาวหลายบรรทัด ใช้คำศัพท์ภาษาบาลีและสันสกฤตที่ผูกขึ้นอย่างประณีตให้ได้เสียงที่ไพเราะ สื่อความถึงพระคุณวิเศษและสายราชสกุลของพระมหากษัตริย์พระองค์นั้น พระปรมาภิไธยในพระสุพรรณบัฏของรัชกาลที่ 1 ถึงรัชกาลที่ 3 เป็นอย่างเดียวกัน
คือ ขึ้นต้นว่า “พระบาทสมเด็จพระบรมราชาธิราชรามาธิบดี” (พระ–บาด–สม–เด็ด–พระ–บอ–รม–มะ–รา–ชา–ทิ–ราด–รา–มา–ทิ–บอ–ดี) และลงท้ายด้วย “บรมบพิตรพระพุทธเจ้าอยู่หัว” (บอ–รม–มะ–บอ–พิด–พระ–พุด–ทะ–เจ้า–หยู่–หัว) ต่อมาตั้งแต่รัชกาลที่ 4 เปลี่ยนเป็นขึ้นต้นด้วย “พระบาทสมเด็จพระปรมินทร” (พระ–บาด–สม–เด็ด–พระ–ปอ–ระ–มิน) หรือ “พระบาทสมเด็จพระปรเมนทร” (พระ–บาด–สม–เด็ด–พระ–ปอ–ระ–เมน)
ในสมัยรัชกาลที่ 9 พระปรมาภิไธยที่จารึกในพระสุพรรณบัฏปรากฏดังนี้ “พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มหิตลาธิเบศรรามาธิบดี จักรีนฤบดินทร สยามินทราธิราช บรมนาถบพิตร” (พระ–บาด–สม–เด็ด–พระ–ปอ–ระ–มิน–ทระ–มะ–หา–พู–มิ–พน–อะ–ดุน–ยะ–เดด มะ–หิด–ตะ–ลา–ทิ–เบด–รา–มา–ทิ–บอ–ดี จัก–กรี–นะ–รึ–บอ–ดิน สะ–หยา–มิน–ทรา–ทิ–ราด บอ–รม–มะ–นาด–บอ–พิด)
พระราชลัญจกรประจำรัชกาล คือดวงตาสำหรับประทับกำกับพระปรมาภิไธยของพระมหากษัตริย์ในเอกสารราชการแผ่นดิน เช่น รัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด พระราชกฤษฎีกา พระราชลัญจกรทำด้วยงาช้างเป็นรูปวงกลม กลางวงกลมแกะเป็นรูปครุฑ รอบขอบภายในจารึกพระปรมาภิไธย
พระราชลัญจกรเป็นเครื่องมงคลที่แสดงพระบรมราชอิสริยยศและพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์ ก่อนพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจะมีพระราชพิธีจารึกพระสุพรรณบัฏพระปรมาภิไธย ดวงพระบรมราชสมภพ และแกะพระราชลัญจกรประจำรัชกาลตามพระฤกษ์ที่โหรหลวงคำนวณ ณ พระอุโบสถวัดพระศรีรัตนศาสดาราม
เมื่อจารึกแล้วอัญเชิญประดิษฐานบนธรรมาสน์ศิลา เบื้องหน้าพระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร พราหมณ์เบิกแว่นฟ้าเวียนเทียนสมโภช 3 รอบ และพักไว้ในพระอุโบสถ ครั้นถึงวันเริ่มการพระราชพิธีบรมราชาภิเษกจึงตั้งขบวนแห่เชิญไปตั้ง ณ มณฑลพระราชพิธีในพระที่นั่งไพศาลทักษิณ