งานฝุ่นของรัฐบาล

คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

 

งานฝุ่นของรัฐบาล – เมื่อสถานการณ์การเมืองมาถึงจุดที่ทราบผลการเลือกตั้งและพอมองออกคร่าวๆ ว่าขณะนี้ใครฝ่ายใดจะมาเป็นรัฐบาล ช่วงเวลาเปลี่ยนผ่านนี้มีภารกิจที่รัฐบาลเดิมต้องเร่งแก้ไขให้เต็มที่และจริงจังกว่าเดิมคือปัญหาฝุ่นละอองที่เป็นอันตรายต่อชีวิตผู้คน

โดยเฉพาะที่ภาคเหนือ สถานการณ์ผ่านมานานนับเดือนยังคงไม่ดีขึ้น แม้แต่ในวันเลือกตั้ง 24 มีนาคม หลายพื้นที่เผชิญค่าฝุ่นละออง PM2.5 เกินมาตรฐาน

ต.ช้างเผือก อ.เมือง จ.เชียงใหม่ มีค่า PM2.5 สูงถึง 241 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร และดัชนีคุณภาพอากาศ (AQI) 351 สูงที่สุดในประเทศ

หลังเชียงใหม่เคยเป็นเมืองที่มีค่าฝุ่น PM2.5 อันดับหนึ่งของโลกติดต่อกัน 6 วัน ช่วงกลางเดือนมีนาคม

การรับมือกับสถานการณ์ของประชาชนที่ทำได้นอกจากรอฟ้าฝนตกลงมาบรรเทา คือการใส่หน้ากากป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก

ผู้อยู่ในพื้นที่ที่ปริมาณฝุ่นละอองมีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้รับคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายและการทำกิจกรรมกลางแจ้ง

ผู้ที่เป็นกลุ่มเสี่ยง ให้เฝ้าระวังสังเกตอาการผิดปกติ เช่น ไอบ่อย หายใจลำบาก หายใจถี่ หายใจไม่ออก หายใจมีเสียงวี้ด ใจสั่น คลื่นไส้ วิงเวียนศีรษะ แน่นหน้าอก ให้รีบพบแพทย์ ส่วนผู้มีโรคประจำตัวควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นอย่างน้อย 5 วัน

ล้วนเป็นมาตรการสำหรับเหตุการณ์เฉพาะหน้าขณะนี้

คําชี้แจงจากข้าราชการระดับสูงของจังหวัดเชียงใหม่ว่า สาเหตุของปัญหาหมอกควันที่สูงขึ้นในพื้นที่เชียงใหม่ เกิดจากลมที่พัดสู่ภาคเหนือมีกำลังอ่อนลง ประกอบกับหมอกควันที่มาจากด้านใต้ของจังหวัดมาจากต่างพื้นที่และจากแนวชายแดน มีการลักลอบเผาป่า จึงทำให้เกิดหมอกควันหนาแน่นไม่กระจายตัว

ส่วนมาตรการอะไรที่เมื่อทำอย่างจริงจังแล้ว อากาศจะดีขึ้นทั้งในปัจจุบันและอนาคตข้างหน้า กลับยังไม่ได้ระบุ มีเพียงการขอความร่วมมือประชาชนงดการเผาในที่โล่งแจ้ง

ประชาชนทั่วไปยังไม่ทราบว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ยังไม่ดีขึ้น ทั้งรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐบาลส่วนกลางจะจัดการทำให้ดีขึ้นอย่างไร

ในเมื่อเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องขี้ผง แต่เป็นฝุ่นที่อันตรายระดับคร่าชีวิตได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน