ประเด็น “การข่าว” กำลังได้รับความสนใจเป็นอย่างสูงภายหลังล้มเหลวในการรุกเข้าไปใน “ธรรมกาย”
ล้มเหลวในการจับตัว พระเทพญาณมหามุนี
ทั้งๆที่เป็นการสนธิกำลังอย่างแข็งแกร่ง 1 ดีเอสไอ 1 ตำรวจ และ 1 ทหาร
ประชุมร่วมกันที่ “บช.ตชด.ภาค 1”
ดำเนินการภายใต้ร่มเงาแห่ง “มาตรา 44” จากคำสั่งหัวหน้าคสช.ฉบับที่ 5/2560
ตั้งแต่กลางดึกคืนวันที่ 15 กุมภาพันธ์
แต่ปฏิบัติการ “เอ็กซเรย์” พื้นที่โซนเอ 190 ไร่และโซนบีกว่า 2,000 ไร่ ทั้งในวันที่ 16 และในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ กลับไม่พบแม้ แต่ “เงา”
กลายเป็น “ข้อกังขา” ในทาง “การข่าว”
ที่ขอ “หมายค้น” ตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน เมื่อเดือนธันวาคม 2559 และรวมถึงในเดือนกุมภาพันธ์ 2560 มีความมั่นใจ มี่ความแม่นยำมากน้อยเพียงใด
ประสิทธิภาพ “การข่าว” จึงสำคัญ
นับจากความล้มเหลวใน”ปฏิบัติการ” 2 วันซ้อนเมื่อนำไปสู่ความ พยายามในการรุกเข้าไปอีกนับแต่วันที่ 23 กุมภาพันธ์
จึงสร้างความแคลงคลาง กังขา
แม้ว่า “ข้อมูล” ล่าสุดที่ระบุว่า มีโทรศัพท์ “ลึกลับ” จากอาคาร ดาวดึงส์ คืนวันที่ 18 กุมภาพันธ์ ไปยังโรงพยาบาลย่านพระราม 9
เบื้องต้นระบุว่าเป็นโทรศัพท์”ธัมมชโย”
แต่ต่อมาก็อ้างแต่เพียงว่า น่าจะเป็นของ “คนใกล้ชิด” เพราะทางวัดพระธรรมกายยืนยันว่า พระเทพญาณมหามุนี ไม่เคยมีโทรศัพท์มือถือ ไม่เคยใช้โทรศัพท์
ทำให้ยิ่ง “กังขา” มากยิ่งขึ้นใน “แหล่งข่าว”
คำถามก็คือ มีแต่ข่าวกรองจาก”ดีเอสไอ”เท่านั้นหรือ แล้ว”ตำรวจ” แล้ว”ทหาร”มีหรือไม่
“การข่าว” จึงยังเป็นเรื่อง “มืดดำ”
คำถามง่ายๆก็คือ “ดีเอสไอ” มีความแน่ใจมากน้อยเพียงใดต่อจำนวนหรือปริมาณของ “มวลชน”
ไม่ว่ามวลชนที่เป็น “พระ” ไม่ว่ามวลชนที่เป็น”ฆราวาส”
หากฟังจากที่ “ดีเอสไอ” แถลงทุกวันนับแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ เป็นต้นมา
จะสัมผัสได้ในลักษณะ “ลื่นไหล”
เป็นความลื่นไหลและไม่แน่ใจใน “ปริมาณ” ที่ดำรงอยู่ภายใน “วัดพระธรรมกาย”
แม้กระทั่งที่ “ตลาดกลาง คลองหลวง” ก็ไม่แน่นอน
ยิ่งกว่านั้น ยังไม่สามารถตอบได้ด้วยว่า “มวลชน” ในพื้นที่โดยรอบวัดพระธรรมกายมีความโน้มเอียงอย่างไร
อย่างน้อยกรณี “อนวัช” ยิ่งสร้างความหวั่นไหว
แม้แต่”ปริมาณ”ยังเป็นเรื่องมืดดำ แล้ว “สถานที่”อยู่ของ พระเทพญาณมหามุนี จะไม่ยิ่งเร้นลับมากยิ่งกว่าหรอกหรือ
เหล่านี้ล้วนเป็น”จุดบอด”ในด้าน”การข่าว”
