เหตุใดกรณีที่ 12 ตัวแทนนานาชาติปรากฏตัว ณ สน.ปทุมวัน เมื่อนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้าพบเจ้าพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก จึงกลายเป็นเรื่องใหญ่
กระทั่งกระทรวงการต่างประเทศต้องออกมาแถลง
“เบื้องต้นทราบว่าคณะทูตและตัวแทนองค์การระหว่างประเทศที่ไปปรากฏตัวในวันนั้นเพราะได้รับเชิญจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เอง”
ขณะเดียวกัน ก็มีปฏิบัติการ IO ในลักษณะดิสเครดิตไม่เพียงแต่ต่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และพรรคอนาคตใหม่ หากแม้แต่ตัวคณะทูตและตัวแทนองค์กรระหว่างประเทศ ก็สรุปว่าเป็นการเกณฑ์ฝรั่งจากถนนข้าวสาร
เรื่อง “คณะทูต”จึงกลายเป็นประเด็น กลายเป็นเรื่องใหญ่
พลันที่กระทรวงการต่างประเทศออกแถลงการณ์ พลันที่ คสช.ส่งโฆษกออกมาตอบโต้องค์กรระหว่างประเทศก็ต้องยอมรับว่ากรณีของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ มิได้เป็นคดีความตามปกติเสียแล้ว
ตรงกันข้าม เรื่องนี้เป็นการแจ้งความกล่าวโทษจาก คสช.ดังที่เห็นบทบาทของ คสช.
ขณะเดียวกันเมื่อเป็นความรับผิดชอบก็ย่อมมีผลสะเทือนไปถึงกลไกอื่นๆ ภายในอำนาจรัฐ ดังเห็นได้จากบทบาทของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
รวมถึงบทบาทของกระทรวงการต่างประเทศอย่างเอาจริงเอาจัง
ไม่ว่าจะมองว่า 12 คณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศเดินทางไปสังเกตการณ์ ณ สน.ปทุมวัน จากการเชิญของผู้ใด
คำถามที่แหลมคมมากยิ่งกว่า อยู่ที่ว่าทำไม 12 คณะทูตและผู้แทนองค์การระหว่างประเทศจึงตัดสินใจไป
นั่นก็เพราะเป็น นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นเพราะ 116
หากมองจากมุมของคสช.จุดเริ่มต้นของปัญหาคือ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กระนั้นหากมองจากสภาพความเป็นจริงที่เป็นคดีตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2558
ถ้าเป็นเรื่องสำคัญไฉนปล่อยให้ยืดเยื้อมาถึง 4 ปี
การเดินหน้าคดีภายหลังการเลือกตั้งและภายหลังชัยชนะท่วมท้นถึงกว่า 80 ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่จึงได้กลายเป็นประเด็น
เป็นประเด็นที่นานาชาติให้ความสนใจ