อำเภอใจ

บทบรรณาธิการ – คํ่าวันที่ 16 เมษายนที่ผ่านมา เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศพระราชบัญญัติข่าวกรองแห่งชาติ 2562 โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้

มาตรา 6 เพื่อประโยชน์ในการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 5 สำนักข่าวกรองแห่งชาติอาจสั่งให้หน่วยงานของรัฐหรือบุคคลใดส่งข้อมูลหรือเอกสารที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงแห่งชาติ ภายในระยะเวลาที่ผู้อำนวยการกำหนด

หากไม่ส่งข้อมูลหรือเอกสารภายในเวลาโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สำนักข่าวกรองแห่งชาติรายงานต่อนายกรัฐมนตรี

เพื่อพิจารณาสั่งการตามที่เห็นสมควร

ในกรณีที่มีความจำเป็นต้องได้มาซึ่งข้อมูลหรือเอกสารอันเกี่ยวกับการข่าวกรอง การต่อต้านข่าวกรอง การข่าวกรองทางการสื่อสาร หรือการรักษาความปลอดภัยฝ่ายพลเรือน

สำนักข่าวกรองแห่งชาติอาจดำเนินการด้วยวิธีการใดๆ รวมทั้งอาจใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์ เครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ เครื่องโทรคมนาคม หรือเทคโนโลยีอื่นใด เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลหรือเอกสารดังกล่าวได้

โดยให้มีการบันทึกรายละเอียดขั้นตอนการดำเนินการโดยเจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบเหตุผล ความจำเป็น วิธีการ บุคคลที่ได้รับผลกระทบหรืออาจได้รับผลกระทบ รวมทั้งวิธีการป้องกัน แก้ไข และเยียวยา

การดำเนินการตามมาตรานี้ หากได้กระทำตามหน้าที่และอำนาจโดยสุจริตตามสมควรแก่เหตุ และเป็นไปเพื่อประโยชน์ด้านความมั่นคงหรือการป้องกันภัยสาธารณะ

ให้ถือว่าเป็นการกระทำโดยชอบด้วยกฎหมาย

ประเด็นที่มีผู้วิพากษ์วิจารณ์กฎหมาย ดังกล่าวก็คือ การกำหนดอำนาจหน้าที่ ในการ “ล้วง” ข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าหน้าที่เอาไว้อย่างกว้างขวาง โดยปราศจากขั้นตอนการตรวจสอบ

นอกจากนั้นยังเขียนกฎหมายเปิดช่องให้ เจ้าหน้าที่พ้นผิด จากการใช้อำนาจหน้าที่ในทาง มิชอบ ด้วยการยกอำนาจวินิจฉัยว่า “โดยสุจริต-สมควรแก่เหตุ” เอาไว้ให้กับหน่วยงานผู้ปฏิบัติเอง

อำนาจที่ปราศจากการตรวจสอบ อำนาจที่ไม่ต้องรับผิด เป็นอันตรายอย่างยิ่งต่อประชาชนทั่วไป

กฎหมายเช่นนี้ไม่น่าจะผ่านออกมาได้ ถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยเต็มตัว

อ่านข่าว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน