FootNote : คะแนน เลือกตั้งซ่อม เชียงใหม่ เพื่อไทย ผนึกพลัง อนาคตใหม่
การเลือกตั้งที่เขต 8 เชียงใหม่เพื่อทดแทน นายสุรพล เกียรติไชยากร ว่าที่ส.ส.เพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับ “ใบส้ม” จากมติอันเฉียบขาด 7 กกต.ดำเนินไปในลักษณะ”สงครามตัวแทน”
เพราะเมื่อตัด นายสุรพล เกียรติไชยากร จากพรรคเพื่อไทยออกไป
จึงเหลือเพียง 2 พรรคสำคัญขับเคี่ยวกัน
1 คือผู้สมัครจากพรรคพลังประชารัฐ 1 คือ ผู้สมัครจากพรรคอนาคตใหม่
โดยมีพรรคประชาธิปัตย์พยายามจะเบียดแทรก
กระนั้น ปัจจัยชี้ขาดอย่างแท้จริงก็คือ 5.2 หมื่นคะแนนของพรรคเพื่อไทยจะเทให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใด
พรรคการเมืองนั้นย่อมเป็นผู้ชนะ
เมื่อเป็นการแข่งขันระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคอนาคตใหม่ การต่อสู้ในเขต 8 จังหวัดเชียงใหม่ จึงทวีความเข้มข้นแหลมคมอย่างเป็นพิเศษ
1 หาก 5.2 หมื่นคะแนนเทให้กับพรรคอนาคตใหม่ก็จะทำให้คะแนน 2.9 หมื่นก้าวกระโดด
ก้าวกระโดดเหนือ 3.9 หมื่นของพรรคพลังประชารัฐ
1 ชัยชนะและความพ่ายแพ้ในพื้นที่เขต 8 จังหวัดเชียงใหม่จะเท่ากับเป็นชัยชนะของฝ่ายต่อต้านการสืบทอดอำนาจของคสช.และเป็นความพ่ายแพ้ของทั้งคสช.และของกกต.ไปด้วยในขณะเดียวกัน
เท่ากับ “ใบส้ม” ที่ออกโดยกกต.สวนทางกับความรู้สึกของประชาชนในพื้นที่
ยิ่งกว่านั้น การเท 5.2 หมื่นคะแนนไปผนวกกับ 2.9 หมื่นคะแนน เท่ากับเป็นการผนวกตัวรวมพลังอย่างมีนัยสำคัญเพื่อชิงชัยเหนือพรรคพลังประชารัฐและคสช.
สงคราม”ตัวแทน”จึงแปรเป็นสงคราม”สั่งสอน”อันทรงพลัง
ภาพที่ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ถ่ายคู่กับภาพ นายสุรพล เกียรติไชยากร สะท้อนถึงสายสัมพันธ์อันแนบแน่นระหว่างพรรคอนาคต ใหม่กับพรรคเพื่อไทย
เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงไปยัง “กกต.”
เป็นการส่งสัญญาณโดยตรงไปยังคะแนนและเจตจำนงของ ประชาชนในพื้นที่ว่าจะเทให้กับพรรคอนาคตใหม่มากน้อยแค่ไหน
นี่คือกลยุทธ์มวยไทยที่เรียกว่า”บาทาลูบพักตร์”
