เปิดวิสัยทัศน์-4ผู้ท้าชิงแม่ทัพปชป.

เปิดวิสัยทัศน์-4ผู้ท้าชิงแม่ทัพปชป. – หลังจาก นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจากหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) เมื่อวันที่ 24 มี.ค.เนื่องจากผลการเลือกตั้งส.ส.ไม่เป็นไปตามเป้าหมาย ทางพรรคจึงกำหนดประชุมใหญ่สามัญในวันที่ 15 พ.ค.นี้ เพื่อเลือกหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารชุดใหม่

ผู้สมัครชิงหัวหน้าพรรคทั้ง 4 คนแสดงวิสัยทัศน์ ดังนี้

• จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
  รักษาการหัวหน้าพรรค

จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์
รักษาการหัวหน้าพรรค

หากมีโอกาสทำหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เรื่องสำคัญระดับต้น คือการแสวงหาความร่วมมือ และต้องเปิดโอกาสให้ทุกคนได้มีโอกาสมีที่ยืนและมีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบ ในการที่จะช่วยกันทำงานให้พรรคเจริญก้าวหน้าต่อไป

ในทีมงานนอกจากมีนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน อดีตเลขาธิการพรรค มาเป็นเลขาธิการพรรคแล้ว ก็มีการผสมผสานคนทุกรุ่นเข้ามามีส่วนร่วม มีที่ยืน เพราะนี่คือจุดแข็งของพรรคประชาธิปัตย์ และผมต้องใช้มานำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ แล้วเข้าไปนั่งในหัวใจของประชาชนอีกครั้งในระยะเวลาไม่นาน

สำหรับการบ้าน 5 ข้อใหญ่ คือต้องฟื้นฟูพรรคให้ได้ความยอมรับกลับมาโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่การเลือกตั้งครั้งนี้เราได้ ส.ส.น้อยมาก พรรคประชาธิปัตย์จะต้องทุ่มเททุกด้านให้มากขึ้น

ถ้าการเลือกตั้งครั้งหน้าได้รับโอกาสจาก ประชาชนในภาคอีสานมากกว่าที่ผ่านมา จะสามารถทำให้พรรคมีโอกาสจัดตั้งรัฐบาลได้ เนื่องจากภาคอีสานมีจำนวนส.ส. 1 ใน 3 ของส.ส.ทั้งประเทศ รวมทั้งการบ้านในข้ออื่นด้วย ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ที่เราได้ ส.ส.น้อยลง และกรุงเทพฯ ที่ไม่ได้ส.ส.เลย ซึ่งพรรคจะต้องเข้าไประดมสรรพกำลังอย่างเต็มที่

ดังนั้น ทีมงานของผมอย่างน้อยที่สุดจะมีทีมงานในแต่ละด้าน มีตัวบุคคลที่มีความชัดเจน รวมทั้งคนใหม่ๆที่จะเข้ามาเสริมทีมด้วย เช่น ทีมเศรษฐกิจ จะมีนายพิสิฐ ลี้อาธรรม นายปริญญ์ พานิชภักดิ์ และยังมีคณบดีคณะเศรษฐศาสตร์จากบางมหา วิทยาลัย นักวิชาการผู้มีชื่อเสียงในวงการธุรกิจเข้ามาช่วยในคณะทำงานชุดต่างๆ

ผู้นำพรรคการเมือง โดยเฉพาะฝ่ายบริหารที่เราต้องการคือนักบริหารมืออาชีพ คนเข้าใจว่าการบริหารธุรกิจ คือ นักบริหารมืออาชีพเท่านั้น แต่ลืมนักบริหารมืออาชีพด้านรัฐกิจ

นักบริหารทั้งสองอย่างแตกต่างกัน ที่มาก็ไม่เหมือนกัน คือ 1.การบริหารรัฐกิจไม่ได้มุ่งหวังผลกำไรแต่มุ่งหวังประโยชน์สูงสุดให้กับ ประชาชนและส่วนรวมหรือภาครัฐ 2.การบริหารรัฐกิจ วิธีการบริหารจัดการทั้งศาสตร์และศิลป์แตกต่างกับบริหารธุรกิจ ต้องมีความเข้าใจและศักยภาพในการขับเคลื่อนกลไก

ขณะเดียวกันการเป็นนักบริหารต้องมี อุดมการณ์ทางการเมือง ต้องยอมรับการตรวจสอบโดยกลไกที่กำหนดไว้ในรัฐธรรม นูญ ต้องขับเคลื่อนองค์กรให้เดินไปข้างหน้าภายใต้กรอบของกฎหมายระเบียบและการ จับตามองของรัฐสภา และองค์กรอิสระ รวมทั้งทุกภาคส่วนของสังคมและประชาชน ที่เลือกมา

คนที่จะมาทำหน้าที่ผู้นำองค์กรการเมือง เพื่อไปบริหารรัฐกิจ นอกจากความรู้ประสบ การณ์ ทักษะแล้วจะต้องมีศักยภาพ อดทน ต่อแรงเสียดทานทั้งแรงเสียดทานทางการเมือง แรงเสียดทานทางเศรษฐกิจ แรงเสียดทาน ทางสังคม

แปลง่ายๆ คือกระดูกต้องแข็งพอ ประเทศไทยต้องการนักบริหารรัฐกิจที่ดีและมีความเป็นมืออาชีพ

• กรณ์ จาติกวณิช
  รักษาการรองหัวหน้าพรรค

กรณ์ จาติกวณิช รักษาการรองหัวหน้าพรรค

การประกาศตัวชิงหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เพราะอยากเห็นพรรคกลับมาเหมือนเดิม ตอนนี้เห็นว่าพรรคมีการแบ่งขั้วที่นับวันจะเกิดความขัดแย้งกันมากขึ้น จึงต้องการเข้ามาฟื้นฟูพรรค

การเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้ ทุกคนมีสองมิติคือเลือกแล้วมีที่ยืนหรือไม่ และยืนอยู่ตรงไหน เลือกแล้วคนนี้จะนำพาพรรคไปสู่เป้าหมายได้หรือไม่ อาจจะทำให้การเลือกตั้งครั้งหน้า ประชาธิปัตย์มีโอกาสกลับมามีส.ส.มากขึ้นหรือน้อยลงได้

สำหรับเลขาธิการพรรคในทีม คือนายชัยวุฒิ บรรณวัฒน์ ส.ส.ตาก ซึ่งเป็นคนที่ทุกคนในพรรคยอมรับ เข้าถึงได้ พูดคุยได้ เป็นคุณสมบัติสำคัญที่จะสามารถดึงคนมาร่วมเดินไปในทิศทางเดียวกัน และมีความเป็นพรรคเดียวกันได้เข้มแข็ง นายชัยวุฒิจะเข้ามาเสริมในส่วนที่ขาด ทำให้นายกรณ์เป็นหัวหน้าพรรคที่ดีขึ้นได้ โดยมีเป้าหมายสำคัญคือทำอย่างไรให้คนรุ่นใหม่หันมาเลือกประชาธิปัตย์ในการ เลือกตั้งครั้งหน้า

ผมมีประสบการณ์การทำงานในภาคเอกชนมา 20 ปีก่อนเข้ามาทำงานการเมือง ถ้านับจำนวนปีก็เป็นนักธุรกิจมากกว่าเป็นนักการเมือง อีกทั้งเคยเป็น รมว.คลัง ส่วนนายชัยวุฒิ เป็นวิศวกร และเคยเป็นทั้งรมว.อุตสาหกรรม รมช.ศึกษาธิการ

ดังนั้นจึงเป็นทีมที่แตกต่างจากอดีตที่สังคมมองว่าพรรคเราเป็นนักกฎหมาย เป็นนักการเมือง แต่ตอนนี้เราเหมือนเป็นทีมเศรษฐกิจการเงินบวกวิศวกร ซึ่งคิดว่าน่าจะเหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันที่ประชาชนต้องการ

ผมจะปลุกพลังของพรรคขึ้นมาอีกครั้ง จะบริหารพรรคอย่างสร้างสรรค์ โปร่งใส และทันต่อยุคสมัย ผมจะขอความร่วมมือและให้โอกาสคนทุกรุ่น ทุกกลุ่ม และทุกภาค

รวมทั้งการเชิญชวนคนมีความสามารถระดับ ประเทศเข้ามาทำงานร่วมกับพรรคต่อไป เพราะตระหนักดีว่าการจะทำงานใหญ่ให้สำเร็จได้ เราต้องเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ส.ส. ผู้สมัครส.ส.และทีมงานของพรรคที่พลาดไปต้องมีที่ยืน ผมจะนำจุดเด่นของทุกคนกลับมาทำงานร่วมกันเพื่อพี่น้องประชาชนให้ได้

ผมขอเป็นสะพานข้ามความขัดแย้ง ที่จะเชื่อมทุกคนไปสู่ก้าวใหม่ เดินหน้าต่อไปด้วยกัน เพื่อให้พรรคประชาธิปัตย์ที่เรารัก กลับมาเป็นความหวังของประเทศไทยอีกครั้งหนึ่งให้ได้ด้วยทุกความสามารถ ทุกสรรพกำลังที่ผมมี

ผมพร้อมแล้วที่จะยกเครื่องพรรคประชาธิปัตย์ให้เป็นเครื่องมือในการทำงานให้แก่ประชาชน และเป็นตัวแทนของคนไทยทั้งประเทศ

• อภิรักษ์ โกษะโยธิน
  อดีตผู้ว่าฯ กทม.

อภิรักษ์ โกษะโยธิน อดีตผู้ว่าฯ กทม.

แม้ไม่ได้เป็นส.ส. แต่การลงชิงหัวหน้าพรรคครั้งนี้ มีความตั้งใจเข้ามากอบกู้พรรค ผมพร้อมบริหารและนำพาพรรคสู่ความทันสมัย ทำงานร่วมกันเป็นทีม ร่วมกับคนทุกรุ่น ยึดมั่นในอุดมการณ์ประชาธิปไตย และทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อตอบโจทย์แก้ไขปัญหาให้คนไทยในสังคมยุคใหม่ พร้อมเดินหน้าประเทศไทยไปสู่อนาคต

วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ต้องเปลี่ยนแปลงโดย ร่วมกันสร้างความเชื่อมั่น ศรัทธา รวมทั้งอุดมการณ์พรรคซึ่งเป็นพรรคการเมืองที่อยู่คู่สังคมมากว่า 70 ปีให้ตอบโจทย์ประชาชน และก้าวต่อไปในสังคมไทยยุคใหม่ได้อย่างสง่างาม

หากผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค จะได้ทุ่มเทเวลาในการปฏิรูปพรรค และลงพื้นที่ร่วมกับสมาชิกพรรคอย่างทั่วถึง ผู้สมัคร ส.ส.หลายคนไม่ได้เข้ารัฐสภา ผมจะดึงคนกลุ่มนี้มาทำงาน เพื่อดึงคะแนนและพื้นที่เหล่านั้นกลับคืนมา

โดยเริ่มที่การบริหารจัดการพรรค นำเทคโนโลยีมาต่อยอดเพิ่มเติม เชื่อมโยงประกอบกับการลงพื้นที่พบประชาชน และการใช้สังคมออนไลน์สื่อสารกับสังคมโดยรวมที่ไม่ใช่มุ่งเน้นแค่ฐานเสียง ของพรรค เปิดพื้นที่ให้สังคมมาบริจาคเงินเพื่อเข้ามามีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ พรรคแบบมีส่วนร่วมมากขึ้น

ส่วนการปรับเปลี่ยนพรรคก็ต้องไม่ลืม อุดมการณ์พรรคที่นำไปปฏิบัติจริงได้ในทุกยุคสมัย วันนี้พรรคมีคนสองรุ่น คือคนรุ่นใหม่และคนมีประสบการณ์ ผมมองว่าอย่าจำกัดนิยามคนทั้งสองรุ่นไว้แค่อายุหรือเพิ่งมาอยู่พรรคไม่นาน ควรให้คำนิยามว่าหากคนที่มีอายุแต่มีทัศนคติใหม่ๆ กับสังคมก็ถือว่าเป็นคนรุ่นใหม่ได้

ดังนั้น การบริหารพรรคไม่ใช่ปล่อยให้หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรคบริหารงานเหมือนเป็นซูเปอร์แมน แต่ต้องทำงานเป็นทีม เปรียบเสมือนเป็นผู้จัดการทีมฟุตบอล นำบุคคลที่มีประสบการณ์ มีมุมมองร่วมสมัย ช่วยกันทำงานกับคนรุ่นใหม่ เปิดพื้นที่ให้คนนอกพรรคมาช่วยกันขับเคลื่อน

วันนี้ประชาธิปัตย์มีกลุ่มนิวเดม ในวันวานมีกลุ่มสตรีและ ยุวประชาธิปัตย์มาช่วยงานพรรค หากเราจะเดินไปยังเป้าหมายนั้นๆควรทาบทามบุคลากรที่มีความชำนาญในด้านนั้นๆ มาทำงาน

ทีมงานที่ผมทาบทามมาช่วยบริหารพรรค มีความหวังในการเปลี่ยนแปลงพรรคให้สังคมยอมรับและศรัทธากับสิ่งที่พรรคจะทำ เพื่อสังคม ซึ่งจะทำให้ก้าวต่อไปของประชาธิปัตย์เป็นก้าวที่มั่นคง และเข้มแข็งกว่าเดิม

• พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค
  ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์

กรณ์ จาติกวณิช
รักษาการรองหัวหน้าพรรค

ผมขออาสาเข้ามาเพื่อฟื้นฟูและกอบกู้พรรค ไม่ใช่เพื่อแสวงหาอำนาจหรือโอกาสทางการเมือง แต่จะร่วมทำงานกับเพื่อนๆ ด้วยหัวใจเดียวกัน จะดูแลกันและกัน จะคล้องแขนเดินไปข้างหน้าด้วยกัน เพื่อนคนใดสะดุดล้ม เราจะช่วยกันประคองให้ลุกขึ้นและร่วมเดินไปข้างหน้าด้วยกันได้เหมือนเดิม

หัวหน้าพรรค เลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค หรือตำแหน่งอื่นๆ เป็นเพียงหัวโขน เราจะทำงานร่วมกันด้วยสถานะที่เท่าเทียมกัน หัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคจะไม่ใช่ผู้ทรงอำนาจสูงสุดอีกต่อไป

ต่อไปนี้กรรมการบริหารพรรค(กก.บห.) 41 คนจะมีความเท่าเทียมกัน และมีส่วนร่วม รวมทั้งต้องเปิดโอกาสให้คนอื่นที่ไม่ได้เป็นกก.บห. มีสิทธิ์เข้ามาร่วมทำงานด้านๆ เช่น อาจจะต้องเข้ามาเป็นคณะทำงาน เป็นต้น

ในส่วนของรองหัวหน้าพรรค ที่ผ่านมามีรองหัวหน้าภาค รองหัวหน้ากทม.ก็จะแต่งตั้งกรรมการภาค เอาคนที่ไม่เป็นกก.บห. มามีส่วนร่วมมากขึ้นโดยรูปแบบการบริหารจัดการจะไม่เหมือนเดิม แนวทางของผมจะให้ทุกคนมีส่วนร่วม มีการเสนอความคิดเห็นมากกว่าที่ผ่านมา

ผมจะขอยืนหยัดทำงานให้พรรคอย่างเต็มที่ เต็มกำลัง หากเพื่อนๆ มีมติให้พรรคเข้าร่วมรัฐบาล ผมจะไม่รับตำแหน่งรัฐมนตรีใดๆ แต่จะขอเป็นตัวแทนประชาชนคอยดูแลพวกเราที่ไปทำงานบริหาร เป็นรัฐมนตรีให้ทำงานด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เพื่อผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ

ผมมั่นใจว่าจะทำให้พรรคประชาธิปัตย์มีความ สามัคคี ปรองดอง มีความเป็นปึกแผ่นมากขึ้นเพื่อประโยชน์ของประชาชนได้อย่างตรงเป้าและถูกใจ ประชาชน

ในทีมงานผมไม่ได้กำหนดว่าใครจะเป็น เลขาธิการพรรค ผมให้ทีมงานไปประชุมและพิจารณาว่าจะให้ใครคนใดคนหนึ่งที่เหมาะสมมาทำหน้าที่ นี้ ผมไม่มีสิทธิ์มาชี้นำเพราะต้องการให้เป็นประชาธิปัตย์ยุคใหม่ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการฟื้นฟูพรรค

ผมเห็นว่าเลขาธิการพรรคใครจะมาเป็นก็มีค่า เท่ากัน เพราะในทีมผม เลขาธิการพรรคจะไม่ใช่ผู้ทรงอำนาจ ส่วนทีมงานยังไม่สรุป แต่ต้องได้ชื่อก่อนวันที่ 15 พ.ค.ซึ่งเป็น วันประชุมใหญ่วิสามัญประจำปี เพื่อเลือกหัวหน้าพรรค

หากผมได้รับเลือกเป็นหัวหน้าพรรค ผมจะไม่ทำบทบาทเป็นหัวหน้า แต่จะเป็นเพื่อนร่วมงาน ร่วมทีม ไม่มีใครใหญ่กว่าใคร เราจะทำงานเป็นทีม เป็นคณะ ไม่เป็นผู้ยิ่งใหญ่ในพรรค