คอลัมน์ ออกจากกรอบ : ฮักเชิล คิม
หนังสือพิมพ์ข่าวสด
ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับคุณหมอชอน ฮอง จุน ที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการรักษาโรคมะเร็ง และท่านมักพูดเสมอว่า โรคมะเร็งหรือโรคร้ายต่างๆ ไม่สามารถรักษาได้ด้วยยา หรือการรักษาทางการแพทย์ที่เราใช้ในปัจจุบัน
แต่การรักษาที่ถูกต้องคือ การเอาสารพิษที่อยู่ในร่างกายออก ผมเองก็ไม่เข้าใจนักในตอนแรก เพราะที่ผ่านมาเราเรียนรู้ว่าหากป่วยต้องกินยา
ในปัจจุบันมีการใช้สารเคมีในเชิงการเกษตร และสารเคมีเหล่านี้ทำให้เกิดเซลล์มะเร็งและทำลายประสาทส่วนปลาย ซึ่งมีผลทำให้การไหลเวียนโลหิตไม่ดี และร่างกายไม่สามารถทำงานได้ปกติ จึงเกิดโรคต่างๆ ตามมา หน้าที่ของหมอคือ ทำอย่างไรจะขับสารพิษออกจากร่างกายได้
เมื่อผมมีโอกาสได้ครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างลึกซึ้ง ก็ไม่สามารถปฏิเสธสิ่งที่คุณหมอท่านนี้กล่าวไว้ได้เลย
หลังจากแต่งงานผมมีโอกาสไปเยี่ยมครอบครัวภรรยา พวกเขาจัดเตรียมอาหารที่มีแต่หัวไชเท้า ทั้งกิมจิหัวไชเท้า แกงหัวไชเท้า ผัดหัวไชเท้า จนผมรู้สึกเหมือนเป็นนิทรรศการหัวไชเท้า ทำไมมีแต่หัวไชเท้า? หรือเพราะว่าความยากจน? ผมได้แต่สงสัย
และก็เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่ผมกลับไปเยี่ยมครอบครัวภรรยา วันหนึ่งพ่อตาบอกผมว่า ต้องกินหัวไชเท้าเยอะๆ เพราะมีส่วนช่วยกำจัดสารพิษออกจากร่างกาย ท่านมีอายุยืนถึง 92 ปี และสามารถเดินทางไปกลับตลาดประมาณ 6 กม. ซึ่งหมายความว่าท่านแข็งแรงมากๆ และเคล็ดลับนั้นก็คือ หัวไชเท้า
คุณหมอชอน ฮอง จุน ได้เขียนหนังสือที่เล่าถึงคุณยายอายุ 80 ปี เป็นโรคมะเร็ง ท่านได้เดินทางไปรักษาหลายโรงพยาบาลแต่ไม่หาย ในจิตใจเต็มไปด้วยคำว่า โรคนี้รักษาไม่ได้ ฉันต้องตายแน่ๆ คนเป็นมะเร็งจะจบลงที่ความตาย ดังนั้นฉันจะต้องตาย
ในสภาพของความหวังที่หมดไป นี่คือสารพิษที่มีอยู่ในจิตใจ เมื่อคุณหมอมีโอกาสได้พูดคุยและชี้ให้คุณยายเห็นว่าการเดินเท้าจากบ้านมาถึงโรงพยาบาลได้นั้น แสดงว่าคุณยายมีกำลังและร่างกายแข็งแรง ดังนั้นก็สามารถเอาชนะโรคได้อย่างแน่นอน และโรคมะเร็งไม่ใช่อะไรเลย แค่ออกกำลังกายก็สามารถเอาชนะได้
ผ่านไปไม่กี่เดือน คุณยายก็หายจากโรคมะเร็งและกลับมาหาคุณหมอว่า แค่ฉันเชื่อในสิ่งที่คุณหมอพูดโรคมะเร็งก็หายไปจริงๆ ก่อนที่จะรักษาโรคมะเร็งด้วยยา คุณหมอได้กำจัดสารพิษที่อยู่ในจิตใจของคนป่วยออกก่อน ทำให้เกิดความเชื่อ เกิดความหวัง และมีกำลังที่จะใช้ชีวิตต่อไปได้ จึงสามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้
คนเราชอบคิดเสมอว่า ที่ผ่านมาฉันได้แต่ก่อปัญหา ฉันโง่ แล้วใครจะรักฉัน คนมากมายเกลียดฉัน เราชอบรับความคิดแบบนี้และเชื่อตามนั้น
คนที่โชคร้ายที่สุดคือ คนที่เป็นโรค คนที่ยากจน หรือถูกไล่ออกจากงาน ใช่หรือไม่?
คำตอบคือ ไม่ใช่ครับ
แต่เป็นคนที่ไม่มีความหวัง ติดอยู่ในความกังวล และไม่สามารถเอาชนะจิตใจแบบนี้ได้ จนไหลไปตามความคิดของตัวเอง นี่คือพิษที่เกิดขึ้นในจิตใจ เช่นเดียวกับคุณยายที่แม้จะเป็นโรคมะเร็ง แต่เมื่อได้เชื่อตามที่คุณหมอบอกว่า แค่มีกำลังก็สามารถเอาชนะโรคมะเร็งได้ คุณยายปฏิเสธความคิดของตัวเองและรับความหวังจากคนอื่น
ถ้าร่างกายต้องการหัวไชเท้าในการกำจัดสารพิษ จิตใจของเราก็เช่นกันต้องการความหวังในการกำจัดสารพิษออกจากใจเช่นกัน
ดร.(กิตติมศักดิ์) ฮักเชิล คิม
ผู้ก่อตั้งมูลนิธิเยาวชนสัมพันธ์นานาชาติ ประจำประเทศไทย
FB : Mind World by Kim Hak Cheol, Ph.D.
