เด่นชัดยิ่งว่า ตลอด 2 วันในการพิจารณารายงานเรื่องการปฏิรูปในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร เท่ากับเป็นการแสดงผลงานการทำ หน้าที่ของ 7 พรรคฝ่ายค้านอย่างเป็นรูปธรรม
หากเปรียบเทียบกับ 19 พรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาลแล้วก็จะสัมผัสได้ในความแตกต่าง
ไม่ว่าจะมองในแง่โครงสร้าง การจัดระบบ
ไม่ว่าจะมองในแง่โครงสร้าง การเรียงลำดับของเนื้อหาในการอภิปราย วิพากษ์วิจารณ์
มีความคึกคักจากด้านของ “ฝ่ายค้าน”
มีความระส่ำระสาย ขณะเดียวกัน ปล่อยปละละเลยจากด้านของ “ฝ่ายรัฐบาล”
เพียงยกที่ 1 ฝ่ายค้านก็นำหน้าไปลิบลิ่ว
หากพิจารณานับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เป็นต้นมา หากพิจารณาอย่างเห็นความต่อเนื่องจากรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาถึงปัจจุบัน
เมื่อประสานกับบทเพลง “เราจะทำตามสัญญา ขอเวลาอีกไม่นาน”
ก็ต้องยอมรับว่างาน”ปฏิรูป”คืองาน”โบว์แดง”
โบว์แดงจากการเปล่งประกาศ”ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง”ผ่านมายัง สภาปฏิรูปแห่งชาติ(สปช.) ผ่านสภาขับเคลื่อนปฎิรูปประเทศไทย(สปท.)
แต่แล้วในวันที่ 26-27 มิถุนายน 7 พรรคฝ่ายค้านก็แปรกระบวนการอภิปรายอย่างธรรมดาให้กลายเป็นการอภิปรายเพื่อแสดงความไม่ไว้วางใจ
ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ไม่ว่าจะต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในเดือนมิถุนายน 2562
ที่คิดว่าเป็น”โบว์แดง”กลับกลายเป็น”โบว์ดำ”
ตามบทบัญญัติแห่งรัฐธรรมนูญจะต้องมีการรายงานผลงานการปฏิรูปอีกครั้งใน 3 เดือนข้างหน้า บทบาทการทำหน้าที่ของ 7 พรรคฝ่ายค้านจึงน่าจะเป็นสัญญาณ
เตือนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
หากประมาทและไม่จัดกระบวนทัพให้เพียบพร้อมเพื่อรับมือ ก็มีโอกาสถูกจับมาขึงพืดอย่างเช่นที่เห็นเมื่อ 2 วันก่อน
เป็นการขึงพืด ณ เบื้องหน้าประชาชนทั่วประเทศ