การขยายประเด็น “ธรรมกาย” เข้าไปยัง “ตลาดหลักทรัพย์”เหมือนจะเป็นอีก”นวัตกรรม”อันมาจาก”ดีเอสไอ”
นำทีมโดยคนจาก”อัยการ”
ระบุในเบื้องต้นว่าเป็นเงินจำนวนมากกว่า 1,000 ล้านบาทที่ไหลเข้าไป
ผ่านบริษัท ผ่าน”โบรกเกอร์”
ระบุด้วยซ้ำไปว่า กรณีเงินจำนวนนี้พัวพันกับ พระเผด็จ ทัตตชีโว ระหว่างดำรงตำแหน่งรักษาการ “เจ้าอาวาส”
ข่าวนี้เหมือนแดดอ่อนในตอนรุ่งสาง
ส่งผลให้กองเชียร์”คณะพนักงานสอบสวน”จาก”ดีเอสไอ”คึกคักเหมือนตำลึงได้รับแสง
ผ่านมาแล้ว 2 สัปดาห์เป็นอย่างไร
ไม่มีรายละเอียดจาก”ดีเอสไอ”ว่าการเข้าไปยัง”ตลาดหุ้น”คืบหน้ามากน้อยเพียงใด
ไม่มีเสียงจาก “ก,ล.ต.”
ไม่มีเสียงจาก “ตลท.”
การรุกเข้าไปสอบยังเจ้าของที่ดินตัวจริงซึ่งปลูกสร้าง”อาคาร บุญรักษา”จะเกี่ยวพันกับบริษัทเงินทุนหลักทรัพย์ในทางอสังหาริม ทรัพย์ลึกแค่ไหน
เงินกว่า 1,000 ล้านบาท”ยึดโยง”ด้วยหรือไม่
ไม่ว่าโฆษกจาก”ดีเอสไอ” ไม่ว่า “อัยการ”อันเป็นเจ้าของเรื่องต่างปิดปากเงียบ
“นวัตกรรม” นี้ยังต่อ “ไม่ติด”
หากอ่านจาก “เฟซบุ๊ค” ของคอลัมนิสต์ซึ่งเกาะติดและคร่ำหวอดอยู่ใน”ตลาดหุ้น”
ก็จะเข้าใจต่อ “เสียงแห่งความเงียบ”
เพราะว่าสินค้าที่”ธรรมกาย”ขายและได้รับความนิยมเป็นอย่างสูงคือสินค้าแห่ง “ศรัทธา”
การจัด”กองกฐิน” การจัด”กองผ้าป่า”คือรูปธรรม 1
หากเป็นกองผ้าป่าเล็กๆจำนวนเงินไม่เกิน 5,000 บาทแต่สามารถระดมได้ 1,000,000 กองจะเป็นเงินจำนวนเท่าใด
แทบไม่จำเป็นต้องไปหาเอาจาก”ตลาดหุ้น”
ข่าวที่ว่า”ธรรมกาย”ปล่อยเงินกว่า 1,000 ล้านบาทเข้าไปยัง “ตลาดหุ้น” กลายเป็นเรื่องน่าหัวร่อขึ้นมาโดยอัตโนมัติ
