FootNote : บทสรุป ประวิตร วงษ์สุวรรณ อนาคต อภิรัชต์ คงสมพงษ์

พลันที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ กล่าวถึงข้อคาดเดาที่ว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จะเป็นนายกรัฐมนตรีต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ด้วยประโยค “ถ้าเป็นได้ก็ดี”

แสงแห่งสปอตไลต์ก็ฉายจับร่างอันองอาจของ พล.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ โดยอัตโนมัติ

ไม่เพียงเพราะดำรงตำแหน่งเป็น “ผบ.ทบ.”

หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก คนกล่าวประโยคนี้คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งมีบทบาทในการผลักดันบุคคลให้ได้เป็นนายกรัฐมนตรีมาแล้วถึง 2 คน

การกล่าวประโยคในลักษณะเป็นการโยนหินถามทางโดยเอ่ยนาม พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ จึงทรงความหมาย

แท้จริงแล้วที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ขานรับต่อการคาดเดาว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ เหมาะสมที่จะดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ต่อจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มิได้เป็นการขานรับอย่างเลื่อนลอย

ตรงกันข้าม การกล่าวในลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วในห้วงหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2534
นั่นคือ คำกล่าวของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ที่ว่า

“หากสุไม่เอา เต้ก็เป็น” อันรู้กันอยู่ว่า สุ คือ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ส่วน เต้ คือ พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล ผู้มีบทบาทอย่างสูงใน รสช.

เพียงแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ นำคำกล่าวของ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ห้วงหลังรัฐประหาร 2534 มาปรับประยุกต์ในห้วงหลังรัฐประหาร 2557 เท่านั้น

เป็นการถอดบทเรียนจาก “พ่อ” มายัง “ลูก”

คำกล่าวของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นการแสดงความปรารถนาดีต่อ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ อย่างแน่นอน

เหมือนกับที่ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ เคยยืนยัน

ไม่มีใครปฏิเสธได้ว่า พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ ปรารถนาดีต่อนายทหารรุ่นน้อง ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.สุจินดา คราประยูร ไม่ว่าจะเป็น พล.อ.อ.เกษตร โรจนนิล

เพียงแต่เมื่อหลังรัฐประหาร 2534 ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเป็นของ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ขณะที่หลังยุค พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะเป็น พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ หรือไม่

คงต้องรอและเฝ้าดูด้วยความระทึกต่อไป

ไม่พลาดข่าวสำคัญ แค่กดเป็นเพื่อนกับ ไลน์@ข่าวสด ที่นี่เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน