FootNote : พลังประชารัฐ รัฐบาล เปิดศึก ปกป้อง กล่องดวงใจ ครั้งใหญ่
ในฐานะรัฐบาล ในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนกลางของรัฐบาลทุกกระบวนท่าน่าจะสะท้อนให้เห็นปฏิบัติการเชิงรุกในทางการเมือง
แต่เมื่อประสบเข้ากับการเข้ามาของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในฐานะกรรมาธิการวิสามัญร่างพรบ.งบประมาณ พรรคพลังประชารัฐก็ต้องคอตก
มีการเปิดเกมต้านผ่าน นายสุชาติ ตันเจริญ มีการเปิดเกมต้านผ่าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายวิเชียร ชวลิต ผ่านกลไกประธานคณะกรรมาธิการ นายอุตตม สาวนายน แต่ดูเหมือนจะไร้ผล
ยิ่งกว่านั้นเมื่อประสบเข้ากับมติคณะกรรมาธิการป้องกันและ ปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ยิ่งทำลายสมาธิของรัฐบาลและพรรคพลังประชารัฐหนักขึ้น
มติของคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบให้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ไปสอบถาม
ถือว่าเป็นมติที่ต่อยเข้ากระโดงคางอย่างชนิดไม่ยั้ง
เพราะว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา คือ นายกรัฐมนตรี คือบุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่พรรคพลังประชารัฐเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรี ในการเลือกตั้ง
เพราะว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ คือ ประธานยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ
ทั้ง 2 คือ ผู้นำ คือ “กล่องดวงใจ”
เพราะว่าในคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบย่อมมีคนของพรรคพลังประชารัฐอยู่ด้วย
สะท้อนว่าเสียงส่วนใหญ่ในคณะกรรมาธิการเป็นอย่างไร
ขณะที่มติเชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติที่เป็นจริง คณะกรรมาธิการชุดเดียวกันนี้ก็รุกไปอีกก้าวใหญ่ก้าวสำคัญ
นั่นก็คือ เตรียมนำเอาข้อร้องเรียนในเรื่อง”นาฬิกาหรู”เข้าสู่การพิจารณาว่าจะรับหรือไม่รับ
นี่ย่อมทะลวงเข้าไปยิ่งกว่า “กล่องดวงใจ”ด้วยซ้ำไป
มาตรการโต้กลับเพื่อเล่นงานคณะกรรมาธิการป้องกันและปราบ ปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบจึงได้ปรากฏขึ้น
หนักหน่วงพอๆกับการต่อต้าน นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
นั่นเห็นได้จากการมอบหมายให้ นายสิระ เจนจาคะ ออกโรงในกระสวนที่ลึกกว่ากรณี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หลายขั้นตอน
กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
