FootNote : ปรากฏการณ์ คนจน ศรีสะเกษ กับ ครม.สัญจร ที่ กาญจนบุรี

ภาพการเคลื่อนขบวนไปรอพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน ก่อให้เกิดลักษณะ “มองต่างมุม” ตามมาอย่างมิได้นัดหมาย

คำถามก็คือ เหตุปัจจัยอะไรทำให้เฮลิคอปเตอร์ซึ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่งมาจึงไม่ลงจอด

เป็นเพราะห่วงในเรื่อง “ความปลอดภัย”

หรือเพราะในด้านการข่าวเกรงว่าอาจจะต้องพบกับมวลชนไม่ต่ำกว่า 500 ของกลุ่มสมัชชาคนจนที่ต้องการพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมกับคำถามในเรื่องเขื่อนราษีไศล เขื่อนหัวนา และสิรินธร

คำถามก็คือ ในเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ต้องการพบประชาชน

แล้วเมื่อประชาชนมารอพบอย่างคึกคักทำไมต้อง “หนี”

ทีท่าและอาการอัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สำแดงออกที่ศรีสะเกษ เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน คลี่คลายในกาลต่อมาว่ามิใช่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ต้องการพบประชาชน

เพียงแต่ว่าประชาชนที่อยู่ใน “กลุ่มสมัชชาคน” มิได้เป็นเป้าหมายสำหรับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

นั่นก็คือ มิได้อยู่ในหมายที่ “กำหนด” และ “เตรียม” เอาไว้

นั่นเท่ากับยืนยันว่า การเดินทางไปตรวจราชการและพบกับประชาชนไม่ว่าในรัฐบาล “ก่อน” หรือในรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง เมื่อเดือนมีนาคม

เป็นประชาชนที่ “หน่วยราชการ”ได้คัดสรรเอาไว้แล้ว มิได้ดำเนินไปอย่างเป็นธรรมชาติ หากดำเนินไปตาม “บรรทัดฐาน”ของหน่วยราชการเป็นสำคัญ

บรรทัดฐานนี้ย่อมมิได้หมายถึง “สมัชชาคนจน”

ไม่มีใครตอบได้ว่าผลสะเทือนจาก “ศรีสะเกษ โมเดล” จะแผ่ออกไปมากน้อยเพียงใด

อย่างน้อย “ครม.สัญจร” ที่ราชบุรี กาญจนบุรีจะเป็น “คำตอบ”

เป็นคำตอบว่า หน่วยราชการในพื้นที่จะมากด้วยความระมัดระวังมากน้อยเพียงใด

เป็นคำตอบว่า หน่วยราชการในพื้นที่จะมีการตระเตรียมอย่างไรเพื่อมิให้เกิดสถานการณ์อย่างที่เกิดมาแล้วใน อ.ราษีไศล จ.ศรีสะเกษ เมื่อ 2 วันก่อน

เพียงวันจันทร์ วันอังคาร ชาวบ้านก็จะได้รู้

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน