FootNote:ไมตรีอบอุ่นจากพรรคเพื่อไทย ประโลมไปยัง‘อนาคตใหม่’

ความเห็นอกเห็นใจต่อชะตากรรมที่พรรคอนาคตใหม่และ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ กำลังเผชิญประสบ อันมาจากพรรคเพื่อไทยเป็นความ เห็นอกเห็นใจในเชิงยุทธศาสตร์

ไม่ว่าจะมาจาก คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ไม่ว่าจะมาจาก นายชูศักดิ์ ศิรินิล

ปัจจัย 1 อาจจะเนื่องจากเคยมีชะตากรรมแบบเดียวกัน

เป็นชะตากรรมที่พรรคไทยรักไทยถูกยุบเมื่อปี 2550 เป็นชะตา กรรมที่พรรคพลังประชาชนถูกยุบเมื่อปี 2551

เป็นชะตากรรมที่ นายทักษิณ ชินวัตร ถูกกระหน่ำหลังรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เป็นชะตากรรมที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกระหน่ำหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

จึงมีความเข้าใจ จึงมีความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันและเห็นใจ

ความจริง หากพิจารณาความสัมพันธ์ระหว่างพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตระหว่างพรรคต่อพรรค ดำเนินไปในลักษณะเป็นพันธมิตรใน แนวร่วมทางการเมืองมาแต่ต้น








Advertisement

เป้าหมายใหญ่อันร้อยรัด 2 พรรคนี้เข้าด้วยกัน นั่นก็คือ การต่อต้านรัฐประหาร การต่อต้านการสืบทอดอำนาจ

รูปธรรมสำคัญ คือการปฏิเสธต่อ “รัฐธรรมนูญ”

ภายในยุทธศาสตร์ใหญ่ของพรรคเพื่อไทย พรรคอนาคตใหม่เช่น นี้แม้ระหว่างการต่อสู้ในสนามเลือกตั้งจะต้องมีการแข่งขัน แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาก็ยังดำรงความเป็นพันธมิตรในแนวร่วม

รูปธรรมสำคัญ คือ การผนึกเป็นพันธมิตร 7 พรรคฝ่ายค้านร่วมดังที่ประกาศร่วมกัน กลายเป็นแนวต้านอย่างมีนัยสำคัญที่ระบอบคสช.ปฏิเสธบทบาทและความหมายไม่ได้

นี่คือ ยุทธศาสตร์ที่ดำรงอยู่ภายในพันธมิตรแห่งแนวร่วมฝ่ายค้าน

ไม่ว่าในที่สุดอนาคตของพรรคอนาคตใหม่จะกลายเป็นอนาคต”ไหม้”กระทั่งนำไปสู่อนาคต”หมด”หรือไม่

แต่สายสัมพันธ์นี้ก็ยังดำรงคงอยู่อย่างเหนียวแน่นและมั่นคง

หลักการพื้นฐานของความเป็นมิตรจึงมิได้อยู่ที่ว่ามีปรปักษ์”ร่วม” มีศัตรูที่จะต้องไปสัประยุทธ์ตัวเดียวกัน หากที่สำคัญเป็นอย่างมากก็คือการคำนึงถึงเป้าหมาย”ร่วม”ในทางการเมือง

ชะตากรรมของพรรคอนาคตใหม่จึงได้รับการปลอบประโลมอย่าง อบอุ่นจากพรรคเพื่อไทย

พิสูจน์สัจจะที่ว่า “ในยามยากย่อมพิสูจน์มิตรแท้”ได้อย่างเป็นจริง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน