หยุดคุกคาม
คอลัมน์ บทบรรณาธิการ
หยุดคุกคาม – กิจกรรมการออกกำลังกายเชิงสัญลักษณ์ ทั้งฝ่าย “วิ่งไล่ลุง” และ “เดินเชียร์ลุง” ผ่านพ้นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่ปรากฏเหตุการณ์ความไม่สงบ หรือเหตุการณ์รุนแรง ละเมิดต่อกฎหมายแต่อย่างใด
การจัดกิจกรรมดังกล่าวของทั้งสองฝ่าย กระจายไปในเกือบทุกจังหวัด แต่ที่เป็นจุดสนใจจริงๆ นั้นอยู่ที่สวนวชิรเบญจทัศหรือสวนรถไฟกับสวนลุมพินี ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมรวมแล้วเกือบ 2 หมื่นคน
ต้องยอมรับทั้งสองฝ่ายล้วนมีเจตนารมณ์ทางการเมืองเป็นแรงขับเคลื่อน ผลักดัน นั่นคือไม่เห็นด้วยกับการดำรงอยู่ของรัฐบาลชุดปัจจุบัน กับสนับสนุนให้ผู้นำรัฐบาลนี้บริหารประเทศต่อไป
เป็นการปะทะสังสรรค์ระหว่างอนาคตกับอดีต
ที่น่าสนใจก็คือ แกนนำประกาศว่าจะจัดกิจกรรมลักษณะนี้อีกในเดือนกุมภาพันธ์ และระบุจะจัดขึ้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งคาดว่าจะมีผู้เข้าร่วมเป็นจำนวนมาก และหลายจังหวัดก็คงจะจัดคู่ขนานกันไปเช่นกัน
สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการชุมนุมใหญ่อย่างแท้จริงเป็นครั้งแรก นับตั้งแต่คณะรัฐประหารก่อการยึดอำนาจ แล้วร่างรัฐธรรมนูญสืบทอดต่อกันมาจนถึงชุดปัจจุบัน
ทั้งนายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ตลอดจนรัฐมนตรีที่เคยเป็นแกนนำล้มล้างประชาธิปไตย ต่างส่งสัญญาณแล้วว่าจะไม่อนุญาตให้จัดกิจกรรมลักษณะนี้อีก โดยอ้างว่าจะทำให้เกิดความแตกแยก ขัดต่อความสงบเรียบร้อย
คาดว่าจะสั่งบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มข้น
ที่ผ่านมา ปรากฏว่ามีอดีตผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สังกัดพรรคการเมืองบางพรรค ถูกพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกให้ไปรับทราบข้อหากระทำความผิดตามพ.ร.บ.การจัดชุมนุมสาธารณะ
นักศึกษาบางมหาวิทยาลัย ถูกผู้บริหารลงโทษทางวินัยโดยอ้างว่ากระทำขัดต่อระเบียบสถาบันอุดมศึกษา เพราะฝ่าฝืนคำสั่งที่ไม่ให้จัดกิจกรรมดังกล่าว โดยอ้างว่าเกี่ยวข้องและฝักใฝ่ทางการเมือง
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ทางการเมืองต่อจากนี้ไป คาดว่าจะทวีความร้อนแรงโดยลำดับ เพราะญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีด้วย ขณะที่การเมืองภาคประชาชนก็จะเข้มข้นไม่แพ้กัน
แต่รัฐต้องไม่ใช้วิธีคุกคามกับฝ่ายเห็นต่างอย่างที่เคยกระทำมา