FootNote : สถานการณ์ โคราช เริ่มบานปลาย ไปยังกองทัพภาคที่ 2 กองทัพบก

แม้จะมีการวิสามัญ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา ไปเรียบร้อยแล้ว ณ ห้าง สรรพสินค้าเทอร์มินาล 21 แต่บทบาทและการเคลื่อนไหวของ จ.ส.อ. จักรพันธุ์ ถมมา ก็ยังดำรงอยู่
ดำรงอยู่ทั้งในฐานะ “จ่าคลั่ง” ดำรงอยู่ทั้งในฐานะ “จ่าโหด” สังหารประชาชนบริสุทธิ์ไปถึง 30 คนกลางเมือง
ด้านหนึ่ง สถานะของ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา ก็เป็นสถานะอย่างที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ได้สรุปและประเมินว่า ทันทีที่เขาลั่นกระสุนออกไปยังประชาชนเขาก็หมดสิ้นความเป็นทหาร
และได้เข้าไปดำรงอยู่ในสถานะของ “อาชญากร“โดยสมบูรณ์
ขณะเดียวกัน ด้านหนึ่ง พฤติการณ์ของ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา มิได้สะท้อนให้เห็นอาการสติแตกในทางส่วนตัว
หากแต่ยังฉายชี้ให้เห็นภาพ “ด้านมืด” ภายในกองทัพอย่างเด่นชัด

ภาพด้านมืดที่ดำรงอยู่ในกองทัพแรกสุดก็คือ ความสัมพันธ์ระหว่างทหารด้วยกัน เป็นความสัมพันธ์ในเชิงผลประโยชน์ เป็นความสัมพันธ์ในลักษณะเอารัดเอาเปรียบ
อาศัยความเป็นผู้บังคับบัญชาเพื่อกดขี่และขุดรีดเอาจากผู้ใตบังคับบัญชา
ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมดังกรณี จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา
ยิ่งกว่านั้น พฤติการณ์ของ จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา ยังฉายชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อน ความบกพร่องอย่างเด่นชัดเป็นรูปธรรม ภายใตค่ายทหาร ภายในกองทัพ
มีการปลืนปืน ปล้นกระสุน ปล้นรถของทางราชการ แต่เวลาผ่านไปร่วมชั่วโมงมิได้มีการบริหารจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ มิได้มีการสกัดขัดขวางกระทั่งปล่อยให้ลอยนวลไปถึงห้างสรรพสินค้า
นี่เป็นความรับผิดชอบโดยตรงของ “กองทัพภาคที่ 2

คำตำหนิจึงมิได้พุ่งไปยัง จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา ในทางส่วนตัว หากแต่ยังตำหนิไปยังประสิทธิภาพและการบริหารจัดการกับปัญหารีบด่วนของกองทัพภาคที่ 2 อีกด้วย
ตั้งแต่เกิดสถานการณ์สังหารโหด 30 ศพ สังคมได้ยินแต่คำตำหนิไปยัง จ.ส.อ.จักรพันธุ์ ถมมา
แต่ไม่เคยได้ยินความรับผิดชอบจาก แม่ทัพภาคที่ 2
แต่ไม่เคยได้ยินความรับผิดชอบจาก ผู้บัญชาการทหารบก แต่ไม่เคยยินความรับผิดชอบจาก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
เหมือนกับการปล้นปืน ปล้นกระสุน มิได้เกิดขึ้นใน”ค่ายทหาร

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน