FootNote:คำประกาศของ เนวิน ชิดชอบ คำประกาศ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ
คำประกาศในเชิงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกอันมาจาก นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ในนามของ”คณะก้าวหน้า”อาจเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น
เพราะว่าเป็นการเรียกร้องโดยตรงและท้าทายอย่างยิ่งต่ออำนาจและบารมีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
กระนั้น ความตื่นเต้นนี้ก็เป็นเรื่องธรรมดาในทางการเมือง
เพราะว่าเมื่อเดือนธันวาคม 2562 กระหึ่มแห่งเสียง”ออกไป ออกไป”อันดังมาจากแฟล็ชม็อบ ณ ลานสกายวอล์ก แยกปทุมวัน ก็หมายถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยิ่งแต่ละแฟล็ชม็อบของนักเรียน นิสิตนักศึกษา ในเดือนกุมภาพันธ์ เดือนมีนาคม 2563 ยิ่งดังกึกก้อง
“คณะก้าวหน้า”เพียงแต่นำมาจัดระบบเป็น”โรดแมป”เท่านั้น
ข้อเสนอในเชิงเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ลาออกก็เช่นกันกับคำประกาศในเรื่องของ”ปิดเมือง”อันดังมาจากเพจลุงเนวิน ของนายเนวิด ชิดชอบ นั่นเอง
หลายคนอาจจะหัวเราะเพราะ นายเนวิน ชิดชอบ เป็นใครก็แค่เจ้าของสโมสรฟุตบอลหนึ่ง เจ้าของสนามแข่งรถคนหนึ่งที่บุรีรัมย์
แต่แล้ว “ผู้ว่าราชการจังหวัด” ก็เห็นด้วย
แต่แล้วก็ไม่เพียงแต่ที่จังหวัดบุรีรัมย์เท่านั้น หากที่จังหวัดอุทัยธานีก็ประกาศ”ปิดเมือง”ในแบบเดียวกัน
ยิ่งกว่าหลายจังหวัดก็เริ่มปิดด่าน ก็เริ่มปิดเมือง
ในที่สุด กรุงเทพมหานครก็ดำเนินมาตรการ”ปิดเมือง”ในกระ สวนเดียวกันกับที่ “ลุงเนวิน” เคยนำร่องมาแล้วที่จังหวัดบุรีรัมย์ คำว่า “ปิดเมือง”ก็กลายเป็นกระแส
มีความเป็นไปได้ที่จะต้อง”ปิดเมือง”กันทั้ง”ประเทศ”
ถามว่าคำประกาศ”ปิดเมือง”ของ นายเนวิน ชิดชอบ เป็นเรื่องท้าทายและแหลมคมหรือไม่ในทางการเมือง
แหลมคมและท้าทายต่อ”มหาดไทย”อย่างแน่นอน
อาจแหลมคมในตอนแรกที่จังหวัดบุรีรัมย์อยู่ในสถานะเป็นหัวหอก นำร่องไปก่อน
แต่เมื่อมีจังหวัดอุทัยธานีตามก็เริ่มกลายเป็นเรื่องปกติ
คำถามอยู่ที่ว่าคำประกาศเรียกร้องให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะค่อยได้รับการยอมรับเหมือนคำประกาศของ นายเนวิน ชิดชอบ หรือไม่
จำเป็นต้องร้องเพลง “รอ” เพราะเป็นเรื่องใหญ่กว่า