FootNote:รูปแบบใหม่ประชุมรัฐสภา ภายใต้สถานการณ์‘ไวรัส’
ข้อเสนอจากพรรคก้าวไกลให้รัฐสภาปรับรูปแบบการประชุมให้รับกับสภาพการณ์ใหม่ที่สังคมเผชิญอยู่ โดยการประชุม”ออนไลน์”ถือได้ว่าแหลมคม
เพราะว่าในสภาพความเป็นจริง ไม่ว่าในระดับครม. ไม่ว่าในระดับกระทรวง ล้วนตกอยู่ในสภาพนะจังงังจากการคุกคามใหม่
คำถามก็คือจะงอก่องอขิงยอมรับสภาพ เลื่อนการประชุมไปเรื่อย โดยไม่คิดที่จะหาหนทางที่เหมาะสม โดยการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ให้เป็นคุณ
แนวโน้มที่เห็นผ่านกระบวนการของแต่ละสถาบันการศึกษาก็คือ จะต้องนำเอาระบบออนไลน์มาใช้ทั้งระดับโรงเรียนและระดับมหาวิทยาลัย
แล้ว “รัฐสภา”จะนิ่งเฉยโดยไม่ยอมหา”วิธี”ของตนหรือ
ความเป็นจริงที่ปรากฏนับแต่ปิดสมัยประชุมเมื่อประสบเข้ากับการแพร่ระบาดของไวรัส ได้มีเสียงเรียกร้องให้เปิดประชุมสมัยวิสามัญขึ้น แต่ไม่ประสบความสำเร็จ
1 มาจากสภาพการณ์ที่ขัดแย้งกับการแพร่ระบาดของไวรัส 1 ไม่ได้รับความร่วมมืออย่างสร้างสรรค์จากรัฐบาล
แม้ว่าในเบื้องต้นมีบางคณะกรรมาธิการพยายามจะจัดประชุมทั้งในแบบเดิมและแบบใหม่โดยใช้ระบบอินเตอร์เน็ตมาช่วย แต่ก็ต้องเลิกล้มไปในที่สุด
คำถามก็คือ เดือนพฤษภาคมสมัยสามัญของการประชุมรัฐสภาก็จะต้องเปิดตามวาระรัฐสภาจะหาทางออกอย่างไร หรือว่ายอมจำนน เลื่อนการประชุมออกไปอย่างไม่มีกำหนด
แล้วภาระหน้าที่ของรัฐสภาในฐานะอันเป็น”อำนาจนิติบัญ ญัติ”จะเป็นอย่างไร สามารถทำได้หรือไม่ หรือว่าไม่ทำอะไรเลย
ข้อเสนออันมาจากพรรคก้าวไกลจึงเป็นคำถามอันแหลมคมไม่เพียงแต่ต่อชุมชนแห่งอำนาจนิติบัญญัติซึ่งมีรัฐสภาเป็นศูนย์รวมเท่านั้น หากแต่ยังเป็นคำถามถึงภารธุระของรัฐสภาอีกด้วย
เมื่อการประชุมรัฐสภาต้องติดขัดด้วยสถานการณ์ไวรัสเช่นนี้แล้ว”ผู้แทนปวงชน”จะดำรงอยู่อย่างไร
จะดำรงอยู่โดยไม่ได้ทำงานแล้วรับเงินเดือนจำนวนมหาศาล
หรือว่าจะหากรรมวิธีที่เหมาะสมเพื่อดำเนินการตรวจสอบและควบคุมฝ่ายบริหารต่อไปเท่าที่สถานการณ์จะเปิดช่องทางให้
คำถามนี้พุ่งตรงไปยัง”วิสัยทัศน์”และสำนึกทางการเมือง