ผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ : บทบรรณาธิการข่าวสด

ผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ : บทบรรณาธิการข่าวสด

ผู้ติดเชื้อกลุ่มใหม่ : บทบรรณาธิการข่าวสด – การพบผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 รายใหม่เป็นแรงงานต่างด้าวกว่าครึ่งร้อยที่ศูนย์กักขังตรวจคนเข้าเมือง อ.สะเดา จ.สงขลา เป็นอีกภารกิจที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข

เพราะการเข้าตรวจคนงานกลุ่มนี้ ไทยดูตัวอย่างมาจากประเทศสิงคโปร์ที่เผชิญการระบาดเป็นคลื่นลูกที่สอง ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อรวมของสิงคโปร์สูงเป็นอันดับหนึ่งในอาเซียน หรือมากกว่า 12,000 คน

แม้ว่าสิงคโปร์มีระบบสาธารณสุขที่ดีและคุมยอดผู้เสียชีวิตให้อยู่ในระดับหลักสิบ แต่สิงคโปร์ก็ถูกมองในแง่ของการมีสังคมชนชั้น และความเหลื่อมล้ำ หลังจากคุ้มครองชาวสิงคโปร์ไว้ได้ดีมาก แต่กลับมีช่องโหว่ที่กลุ่มแรงงานต่างด้าว

สำหรับไทย หนทางต่อไปคือจะดูแลผู้ติดเชื้อที่เป็นกลุ่มแรงงานต่างด้าวอย่างไรให้เหมาะสม

หากมองสังคมไทยตามสภาพความเป็นจริง ส่วนหนึ่งมีกลุ่มคนที่มีน้ำใจและปรารถนาดีต่อคนด้อยโอกาส แต่อีกส่วนก็เป็นกลุ่มที่มีอคติทางเชื้อชาติ และเหยียดชนชั้นอยู่ไม่น้อย

ความกลัวโรคระบาดอาจเป็นแรงผลักดันให้คนกลุ่มหลังมองภาพกลุ่มแรงงานต่างด้าวที่ติดเชื้อด้วยความหวาดระแวง หวาดกลัว และรู้สึกเป็นภาระ

ประเทศไทยมีแรงงานข้ามชาติที่จดทะเบียนตามกฎหมายราว 1.6 ล้านคน และที่อยู่นอกระบบอีกราว 5 แสนคนทั่วประเทศ

ดังนั้นรัฐบาลในฐานะตัวแทนของคนทุกกลุ่ม ในสังคม จึงต้องบริหารจัดการกับปัญหานี้โดยคำนึงถึงองค์ประกอบหลายด้าน รวมถึงหลักมนุษยธรรม

เพราะโควิด-19 เป็นปัญหาระดับโลก และพร้อมจะเป็นประเด็นข่าวไปทั่วโลกเช่นกัน

การดูแลแรงงานต่างด้าวไม่เฉพาะการดูประเด็นผู้ป่วยหรือผู้ติดเชื้อ ยังมีเรื่องผล กระทบทางเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้อง ที่แม้คนไทยเองก็ลำบาก และมีที่หลุดรอดจากความช่วยเหลือผ่านระบบสวัสดิการของทางภาครัฐ

แรงงานต่างด้าวเหล่านี้ก็เช่นกัน แม้เป็นผู้จดทะเบียนถูกกฎหมาย และจ่ายเงินสมทบให้กับประกันสังคมทุกเดือน แต่เมื่อถึงเวลาเดือดร้อน ถูกเลิกจ้าง กลับหา “เจ้าภาพ” ที่จะช่วยเหลือไม่ได้

องค์กรที่ทำงานเกี่ยวกับแรงงานต่างด้าวเสนอว่า รัฐบาลมีเงินทุนเยียวยาฉุกเฉินที่มีไว้ใช้ส่งแรงงานผิดกฎหมายหรือผู้ได้รับความเดือดร้อนกลับประเทศต้นทาง จึงควรนำเงินก้อนนั้นมาใช้เพื่อช่วยเหลือแรงงานกลุ่มนี้

หากมองด้วยใจเป็นธรรมแล้ว แรงงานเหล่านี้เป็นส่วนประกอบในระบบฐานรากของการผลิตและเศรษฐกิจของไทยเช่นกัน