ที่ปรึกษาอีกคณะ : บทบรรณาธิการข่าวสด

ที่ปรึกษาอีกคณะ

บทบรรณาธิการข่าวสด

ที่ปรึกษาอีกคณะ : บทบรรณาธิการข่าวสด – ผลงานฮือฮาของรัฐบาลที่เรียกเสียงติชมเมื่อเดือนเมษายน เป็นกรณีนายกรัฐมนตรีส่งจดหมายเปิดผนึกถึง 20 มหาเศรษฐีชั้นนำของประเทศเพื่อขอความคิดเห็นและคำแนะนำเรื่องการรับมือผลกระทบจากสถานการณ์โรคโควิด-19 ระบาดทั่วโลก

ผลตอบรับเป็นไปด้วยดี หลายคนหรือบริษัทเปิดแผนช่วยเหลือผ่านรัฐบาล เป็นมูลค่า 50 ล้านบาทบ้าง 100 ล้านบาทบ้าง และ 700 ล้านบาทก็มี

ความช่วยเหลือและข้อเสนอแนะดังกล่าวนั้นใช้ได้ผลจริงหรือไม่เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องประมวลและประเมินผล

ระหว่างที่เข้าสู่เดือนพฤษภาคม ผู้นำรัฐบาลแต่งตั้งคณะที่ปรึกษาด้านผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม เพิ่มเติมขึ้นมา 13 คน

เรียกความสนใจและเสียงวิจารณ์กระหึ่มขึ้นอีก

บุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งให้ทำหน้าที่ตาม พ.ร.ก.สถานการณ์ฉุกเฉิน ล้วนมีชื่อเสียงในวงการวิชาการและหน่วยงานด้านเศรษฐกิจ และน่าจะเสนอความเห็นทางวิชาการและแนะแนวทางต่างๆ ให้นายกรัฐมนตรีได้

แต่วัตถุประสงค์ที่ระบุไว้ว่า เพื่อลดผลกระทบทางเศรษฐกิจและสังคม พร้อมทั้งตอบสนองความต้องการของประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ จะเป็นไปได้หรือไม่ เป็นเรื่องที่ผู้คนจำนวนมากสงสัยและอาจไม่เชื่อมั่น

เนื่องจากแผนงานรับมือผลกระทบที่ผ่านมายังไม่มีความพร้อมที่ดีพอ ทั้งในส่วนระบบและส่วนกลไกการขับเคลื่อน

ที่สำคัญคือการสื่อสารถึงแผนงานที่ชัดเจนยังเป็นไปในลักษณะลักลั่น รวมศูนย์ และเป็นคำสั่งจากบนลงล่าง

หากการแก้ปัญหาจากนี้ไปยังคงยึดติดกับระบบสั่งการแบบเดิม มากกว่าการเกลี่ยอำนาจให้เกิดความยืดหยุ่น ผลของการใช้ที่ปรึกษาเฉพาะกิจและมหาเศรษฐีชั้นนำจะยังคงเป็นคำถามต่อไป

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีมีวุฒิสมาชิกที่แต่งตั้งขึ้นมาเองถึง 250 คน ที่ระบุว่าล้วนมีความรู้และประสบการณ์มากมาย

แต่ปัญหาติดอยู่ตรงที่ว่า วุฒิสมาชิกไม่ได้มาจากการเลือกตั้งของประชาชน การสะท้อนปัญหาเพื่อจะให้คำปรึกษาทางกฎหมายหรือข้อแนะนำอื่นๆ จึงไม่ใช่กลไกที่มีศักยภาพ

ส่วนสมาชิกสภาผู้แทนฯ กว่าครึ่งที่อยู่ฝั่งฝ่ายค้าน ยังถูกมองว่าติติงเพื่อหวังผลทางการเมือง เนื้อหาที่พยายามสื่อจึงถูกลดทอนไป

ดังนั้น การรับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ที่รัฐบาลควรต้องเป็นธงนำ อาจทำให้ประชาชนไม่กล้าคาดหวังนัก