แห่ฟังคับคั่ง ไลฟ์ทอล์ก “สามก๊ก ปลุกชีวิต คิดการใหญ่” 7 ผู้นำความคิดคนดังขึ้นเวทีพร้อมองค์ความรู้วรรณกรรมจีนอิงประวัติศาสตร์ชื่อดังของโลก ตีความเชื่อมโยงเหตุการณ์ปัจจุบัน เครือมติชนจับมือช่อง 3-บีอีซี เทโรฯ จัดยิ่งใหญ่ ชี้ได้ข้อคิดและมุมมองที่คิดไม่ถึงและนำไปประยุกต์ใช้ได้ ทั้งการบริหารชีวิต หน้าที่การงาน คิดว่าทุกคนน่าจะได้มุมคิดดีๆ กลับไป เปิดใจคนฟัง วีระกานต์ มุสิกพงศ์ เผยตั้งใจมาฟังความคิดที่แปลกใหม่และคาดว่าไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อนจาก 7 กูรูที่พูดคุยในแบบฉบับของแต่ละคน และ นำมาเชื่อมโยงเรื่องสามก๊ก ด้าน “น้องไดร์” จิณณ์ณิตา มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 เผยดูจากทีวี ประทับใจขงเบ้ง ทั้งเรื่องสามก๊กยังให้แง่คิดดีๆ ที่ทุกคนนำไปปรับใช้ได้
เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 25 มิ.ย. ที่ องค์บาก อัลตร้า อารีนา ชั้น 6 ศูนย์การค้าโชว์ดีซี ถ.พระราม 9 กรุงเทพฯ “เครือมติชน” จับมือ บ.บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) และ บ.บีอีซี-เทโร เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (มหาชน) จัดกิจกรรมไลฟ์ทอล์ก “สามก๊ก ปลุกชีวิต คิดการใหญ่” โดยมี 7 ผู้นำความคิดมาให้องค์ความรู้เกี่ยวกับวรรณ กรรมจีนอิงประวัติศาสตร์เรื่อง “สามก๊ก” ที่เชื่อมโยงกับเหตุการณ์ปัจจุบัน ได้แก่ นาย ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซีอีโอโลกตะวันออก, พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม, อาจารย์สง พงศ์ศุภนิมิต กบฏฮวงจุ้ย, รศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ นักประวัติศาสตร์, ดร.ป๋วย อุ่นใจ นักคิด นักเขียน นักชีวฟิสิกส์, นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ BLOGNONE.com และนายนิธิพันธ์ วิประวิทย์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ราชวงศ์จีน 2556
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศก่อนเริ่มงาน มีบุคคลที่มีชื่อเสียงรวมทั้งประชาชนทั่วไปสนใจเข้าร่วมรับฟังไลฟ์ทอล์กกันอย่างคับคั่ง ขณะที่สำนักพิมพ์มติชนได้จัดบูธหนังสือที่เกี่ยวกับเรื่องสามก๊กและประวัติ ศาสตร์จีนมาจำหน่ายจำนวนมาก ซึ่งผู้ที่เข้าร่วมงานต่างสนใจและหาซื้อกันอย่างต่อเนื่อง อาทิ สงครามสามก๊ก 26 ยุทธวิธีสู่ชัยชนะ, 101 คำถามสามก๊ก, ราชสำนักจีนหันซ้าย, ยอดตุลาการราชวงศ์ซ่ง, คังซี จอมจักรพรรดิ ต้าซิง เป็นต้น
สำหรับวรรณกรรมเรื่องสามก๊กเป็นผลงานของหลอกว้านจง หรือ ล่อกวนตง (ฮกเกี้ยน) เขียนขึ้นในสมัยราชวงศ์หยวน ซึ่งต่อมาก็มีผู้นำเรื่องไปแปลเป็นภาษาต่างๆ กว่า 10 ภาษา อีกทั้งยังดัดแปลงเป็นภาพยนตร์ นิทาน การ์ตูน เป็นต้น เนื่องจากสามก๊กเป็นเรื่องที่ให้ความคิดในศาสตร์ต่างๆ อย่างมากมาย ทั้งยุทธศาสตร์ ปรัชญา จิตวิทยา คุณธรรมความซื่อสัตย์ ความกล้าหาญ ความสามัคคี ความกตัญญู จึงทำให้เป็นเรื่องที่คนนิยมศึกษากันในทุกช่วงสมัย
นายวีระกานต์ มุสิกพงศ์ อดีตแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวว่า ศึกษาเรื่องสามก๊กตั้งแต่สมัยเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษา เพราะเป็นหลักสูตรการเรียนการสอนของโรงเรียน ชอบสำนวนที่สอดแทรกความคิดดีๆ มาสอนผู้อ่าน เช่น ตอนทัพเรือโจโฉแตก ซึ่งขณะนั้นโจโฉผู้ตั้งตนเป็นสมุหนายกข่มเหงฮ่องเต้ ปกครองคนด้วยความโหดเหี้ยม ส่วนเล่าปี่ ผู้นำที่ทรงคุณธรรม เป็นห่วงราษฎรและครอบครัว โดยมีขงเบ้งผู้เป็นกุนซือของเล่าปี่ ยอมรับนับถือในคุณธรรมสูงส่งของเล่าปี่ จึงอาสาใช้ลิ้นสามนิ้วเกลี้ยกล่อมง่อก๊กของซุนกวนเพื่อให้ร่วมมือกับจ๊กก๊กต้านโจโฉ ก็จะได้มุมคิดดีๆ ที่ว่า แม้อยู่ในช่วงสงคราม ขงเบ้งก็เลือกที่จะเจรจามากกว่าการใช้กำลัง สะท้อนสติปัญญาและความจงรักภักดีของขงเบ้งที่มีต่อเล่าปี่
“เมื่อเจ้าภาพอย่างเครือมติชนร่วมจัดไลฟ์ทอล์ก สามก๊ก ปลุกชีวิต คิดการใหญ่ และโฆษณาอย่างยิ่งใหญ่ ก็รู้สึกว่างานนี้มีความน่าสนใจ อีกทั้งยังดึง 7 ผู้นำของความคิดมาร่วมพูดคุยในแบบฉบับของตนเอง และนำมาเชื่อมโยงในเรื่องสามก๊กด้วย จึงคิดว่าต้องมารับฟังความคิดที่แปลกใหม่และคาดว่าไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน” นายวีระกานต์กล่าว
นายเฉลิมพล คนากิจไพศาล รองผู้จัดการบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง เดินทางมาชมไลฟ์ทอล์กพร้อมครอบครัว กล่าวว่าสิ่งที่น่าสนใจของไลฟ์ทอล์กครั้งนี้คือความเป็นสามก๊ก ซึ่งเป็นวรรณกรรมจีนที่โด่งดังไปทั่วโลก ตนอ่านสามก๊กมานานแล้ว ชอบแง่คิดต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะการศึกษาคน เชื่อว่าคนในสมัยก่อนหรือสมัยนี้ความคิดไม่ได้แตกต่างอะไรกันมาก ดังนั้น จึงเอาแง่คิดของสามก๊กมาบริหารคนได้ ผู้บริหารต้องมีกลยุทธ์ในการมองคนให้ออก
“อีกหนึ่งที่งานไลฟ์ทอล์กครั้งนี้เป็นที่น่าสนใจ คือการนำ 7 ผู้นำความคิดในมุมมองต่างๆ เช่น ด้านไอที ฮวงจุ้ย การบริหาร ทหาร มาพูดถึงสามก๊กในแบบฉบับของตนเอง อยากรู้ว่าความคิดของแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง น่าจะนำความคิดดีๆ ของผู้นำความคิดไปใช้ประยุกต์ ในชีวิตประจำวันได้” นายเฉลิมพลกล่าว
ด้าน “น้องไดร์”น.ส.จิณณ์ณิตา บุดดี มิสไทยแลนด์เวิลด์ 2016 ที่มาพร้อมกับ “น้องกิ๊ฟ”น.ส.มิณทร์ลดา สร่างโศก รองมิสไทยแลนด์เวิลด์อันดับ 1 ปี 2015 และ “น้องแคร์” น.ส.ฉัตรฑริกา สิทธิพรม ดารานักแสดง ช่อง 3 กล่าวว่า ก่อนมางานไลฟ์ทอล์กเคยดูสามก๊กผ่านทางทีวีมาบ้าง แต่ไม่ได้อ่านและศึกษาอย่างจริงจัง เท่าที่ดูจากทีวีตนชอบขงเบ้ง เป็นตัวละครที่มีบทบาทมาก เป็นผู้รู้ ฉลาด ทั้งด้านโหราศาสตร์ กลศึก การรบ การบริหาร การปกครอง การดูคน และอีกหลายๆ อย่าง ประทับใจในตัวขงเบ้ง อีกทั้งเรื่องสามก๊กได้ให้แง่คิดดีๆ มากมาย ซึ่งทุกคนสามารถนำไปปรับใช้ได้ โดยงานนี้มีผู้นำความคิด 7 ด้านมาเล่าถึงสามก๊ก จึงอยากมาเข้าร่วมรับฟัง น่าจะได้ความคิดและมุมมองแปลกใหม่ไปปรับใช้ในชีวิต
ขณะที่น้องกิ๊ฟ น.ส.มิณทร์ลดากล่าวว่า แม้จะไม่ได้อ่านสามก๊กมาก่อน แต่เชื่อว่างานไลฟ์ทอล์กครั้งนี้จะได้มุมความคิดดีๆ ต่อยอดใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำให้ได้รู้ว่าคนเก่งๆ ทั้งในสมัยก่อนหรือสมัยนี้คิดหรือทำอย่างไรให้ชีวิตประสบความสำเร็จ
ต่อมาผู้สื่อข่าวรายงานการไลฟ์ทอล์กบนเวที รศ.ดร.ศานติ ภักดีคำ นักประวัติศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ประวัติศาสตร์ชาติไทยน่าจะได้ศึกษาเรื่องเกี่ยวกับสามก๊กมาบ้าง สามารถเปรียบเทียบได้จากศึกสงครามสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ที่ดำรงตำแหน่งพระยาจักรี ได้สู้รบกับพม่า ขณะนั้นพม่ากำลังจะตีเมืองพิษณุโลก พระยาจักรีจึงใช้กลอุบายเปิดเมือง นำวงมโหรีไปเล่นเพื่อลวงข้าศึกว่ามีทหารไพร่พลอยู่เป็นจำนวนมาก ทำให้พม่าไม่กล้าเข้ามาตีเมืองพิษณุโลก และสุดท้ายก็สามารถตีฝ่าวงล้อมของพม่าออกไปได้ เช่นเดียวกับขงเบ้งที่ล่อหลอกสุมาอี้ด้วยการนำพิณขึ้นไปเล่นเสมือนว่ามีกำลังพลอยู่เต็มอัตรา แต่แท้จริงแล้วไม่มีทหารเลย ขงเบ้งเป็นผู้ที่ทำการอย่างรอบคอบ ฉลาด ซึ่งเห็นได้ว่าวรรณกรรมสามก๊กทุกประวัติศาสตร์สามารถนำกลยุทธ์มาประยุกต์ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสบความสำเร็จ
ด้าน ดร.ป๋วย อุ่นใจ นักคิด นักเขียน นักชีวฟิสิกส์กล่าวว่า สามก๊กมาเกี่ยวข้องกับวิทยาศาสตร์อย่างไรนั้น เราต้องรู้สังคมและประวัติศาสตร์ของจีนก่อน หากศึกษาสามก๊ก จะรู้ว่ามีจุดยุทธศาสตร์หลากหลายแง่มุม การจะรบต้องตีโจทย์ รอบรู้ข้อมูลของฝั่งตรงข้ามอย่างขงเบ้ง หรือที่มักเรียกกันว่าพญามังกรหลับ แต่น่าจะเป็นมังกรซุ่มมากกว่า เพราะขงเบ้งจะใช้เวลาศึกษาข้อมูลเป็นเวลานานเพื่อให้ได้ข้อมูลที่แม่นยำ เพราะข้อมูลที่หนักแน่นย่อมจะเกิดวิสัยทัศน์ที่ดี แปลกแหวกแนว ส่วน โจโฉเป็นนักวางแผน ไม่ยึดติดกับตำรา สอนให้คนคิดนอกกรอบ เพราะสงครามพลิกได้เสมอ หรือคำสอนที่โจโฉสอนลูกไว้ว่า หากเจ้าอ่านแต่หนังสือและทำตามหนังสือตลอดเมื่อไรเจ้าจะเป็นผู้นำได้ ก็เหมือนกับวิทยาศาสตร์ที่ต้องเป็นผู้นำและคิดค้นสิ่งใหม่ๆ ดั่งคำที่ว่าสร้างในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้ ทุกสงครามย่อมมีการสูญเสีย แต่ก็ก่อให้เกิดวีรบุรุษ วีรบุรุษเหล่านี้ล้วนสร้างนวัตกรรม
นายอิสริยะ ไพรีพ่ายฤทธิ์ ผู้ก่อตั้งเว็บไซต์ BLOGNONE.com กล่าวว่า หากนำผู้นำ สามก๊กมาเปรียบเทียบกับไอที เล่าปี่ต้องเทียบกับกูเกิ้ล เพราะไม่ได้มีต้นทุนในชีวิตมาก่อน แต่เป็นผู้ที่คิดการใหญ่ ต้องการฟื้นฟูราชวงศ์ฮั่น รวบรวมคนเก่งๆ สุดท้ายก็ประสบความสำเร็จ อย่างกูเกิ้ลก็เป็นที่รู้จักของคนทั่วโลกเพียงแค่ปลายนิ้วคลิก โจโฉนิยามให้เป็นลักษณะของซีอีโอของบริษัทมหาชน ไม่ได้เริ่มต้นจากศูนย์ โจโฉมีรากฐานทางครอบครัวที่ดี เป็นขุนนาง กระทั่งอาศัยภาวะที่วุ่นวายในสมัยนั้นจนเติบใหญ่ ขอเปรียบเทียบเป็นนายสัตยา นาเดลลา ซีอีโอไมโครซอฟท์ ที่เริ่มต้นตั้งแต่เป็นพนักงานเล็กๆ จนเติบโตขึ้นเป็น ผู้บริหารจนถึงทุกวันนี้
นายอิสริยะกล่าวต่อว่า ส่วนซุนกวน เหมือนกิจการกงสีต่อสานภายในครอบครัว เปรียบเสมือนนายทิม คุก ซีอีโอแอปเปิล ที่ไม่ได้ดันให้ตัวเองเก่งอยู่คนเดียวอย่างสตีฟ จ็อบส์ แต่ดันคนรอบตัวให้เก่งเพื่อสานต่อให้กิจการประสบความสำเร็จ แต่สุดท้ายแล้วในบั้นปลายทั้งสามก๊กไม่มีใครชนะ ผู้ชนะกลับเป็นสุมาอี้ที่ครองแผ่นดินจีน ตนจึงอยากฝากคำถามว่าใครคือสุมาอี้
ด้านอาจารย์สง พงศ์ศุภนิมิต กบฏฮวงจุ้ย กล่าวว่า สมัยที่ตนทำงานที่ศุลกากรจนได้ไปประจำกงศุลที่ฮ่องกง มีงานหลักคือการป้องกันการหนีภาษี แต่มีงานรองที่ต้องไปพบปะกับหน่วยงานต่างๆ ในฮ่องกง สิ่งสำคัญที่ต้องพกติดตัวคือนามบัตร เมื่อติดต่อสื่อสารก็มองว่าตำแหน่งหน้าที่เราดี แต่เมื่อถามว่าพักอยู่ที่ไหน เมื่อตอบว่าย่านจอร์แดน ผู้คนกลับหนีหน้า เพิ่งมารู้ว่าย่านนี้เป็นสลัม ก็เหมือนกับน้ำ 2 แก้วที่วางบนโต๊ะกับบนพื้น น้ำบนพื้นแม้จะดูดีแต่กินไม่ได้ ทั้งที่น้ำในแก้วเหมือนกัน นี่เป็นส่วนหนึ่งที่ให้รู้ว่าเป็น อภินิหารของฮวงจุ้ยที่ดี
“ฮวงจุ้ยเป็นสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา เหมือนศึกที่โจโฉแตกทัพเรือ แม้มีทหารเป็นล้านก็ยังสู้กับทางขงเบ้งไม่ได้ เพราะขงเบ้งเล่นหมาก ฮวงจุ้ย รู้ฟ้า ดิน คน รู้อากาศ ทิศทางลม ทำให้กองทัพโจโฉต้องแตกพ่ายไป” อาจารย์สงกล่าว
นายนิธิพันธ์ วิประวิทย์ สุดยอดแฟนพันธุ์แท้ราชวงศ์จีน 2556 กล่าวว่า ตนชอบคำคมของมาร์ก ซักเคอร์เบิร์ก ผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก ที่บอกว่าความลับก็คือ ไม่มีใครรู้มาแต่แรกว่ามันจะเป็นอย่างไร ความคิดมันไม่ได้ถูกออกแบบไว้ แต่มันจะค่อยๆ เผยให้เห็นจากการลงมือทำ คุณแค่ต้องเริ่มทำมันเท่านั้นเอง เมื่อเปรียบกับสามก๊ก โจโฉ ผู้นำที่ประสบความสำเร็จ ได้สร้างวีรกรรมมากมาย ผ่านความล้มเหลวมาก็เยอะ เขาไม่รู้ว่าสิ่งที่ทำลงไปนั้นจะมีผลเป็นอย่างไร แต่ก็สร้างวีรกรรมมากมายและสุดท้ายก็ประสบความสำเร็จและยิ่งใหญ่
ด้านนายก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ซีอีโอโลกตะวันออก กล่าวว่า หากให้ตนเลือกอยู่ในหนึ่งของสามก๊ก ขอเลือกอยู่ก๊กเล่าปี่ เป็นหนึ่งในกษัตริย์ของจีนที่คนส่วนใหญ่จำได้ เพราะทิ้งความสุขในวังเพื่อไปออกรบ แม้จะพ่ายแพ้แต่ก็เป็นความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ ตนชอบส่วนหนึ่งของสามก๊กในตอนที่กวนอูถูกฆ่าตาย เล่าปี่ได้เตรียมทัพนานถึง 2 ปีเพื่อจะแก้แค้นให้กวนอู แสดงถึงความเป็นผู้นำที่มีความรอบคอบ ไม่หุนหันพลันแล่น เล่าปี่เป็นผู้มีอุดมการณ์จนคนรอบข้างให้ความเคารพและนับถือจากใจจริง แสดงให้รู้ว่าความดีมีอยู่จริง
“คนที่บอกว่าถ้าอ่านสามก๊กครบ 3 รอบแล้วจะคบไม่ได้นั้น ผมไม่อยากให้คนๆ นั้นติดอยู่กับเล่ห์เหลี่ยม หรือการคิดทรยศ แต่อยากให้มองสามก๊กและติดอยู่กับคำว่าคุณธรรม นำมาใช้ในชีวิตของเรา ทั้งด้านความสามัคคีและรู้จักกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ” ซีอีโอโลกตะวันออก กล่าว
ทางด้าน พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า สามก๊กเป็นวรรณกรรมที่ทรงคุณค่ามาก สอนแง่คิดต่างๆ มากมาย มีโวหารความเพราะของตัวอักษรที่เรียงร้อยขึ้นมา ตนชอบโจโฉ เพราะเป็นผู้นำที่ชัดเจน เป็นนายที่ดี ให้รางวัลแก่ลูกน้อง ขณะเดียวกันก็มีความคิดดีๆ ที่ว่า หากใครเป็นศัตรูของเรา จงนำเขามาทำงานให้เรา เป็นต้น ปัจจุบันสังคมเรามีทั้งคนดีและชั่ว เป็นสิ่งสะท้อนในสังคมที่เราทุกคนต้องเจอ ซึ่งเราสามารถดึงความคิดดีๆ ของเรื่องสามก๊กมาประยุกต์ใช้ในชีวิตทั้งการมองคน และดูคนให้เป็น
นายฐากูร บุนปาน กรรมการผู้จัดการบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงกระแสตอบรับของการจัดไลฟ์ทอล์กครั้งนี้ว่า ชอบ สนุก ได้ข้อคิดและมุมมองที่คิดไม่ถึง ผู้นำความคิดทั้ง 7 ท่านได้เสนอมุมมองความคิดต่างๆ เพื่อให้เราทุกคนได้นำไปประยุกต์ใช้ได้ ทั้งเรื่องการบริหารชีวิต หน้าที่การงาน สังเกตคนที่มาดูทุกคนก็ตั้งใจดู ทำให้เวลา 2-3 ชั่วโมงเป็นเรื่องที่ไม่น่าเบื่อ คิดว่าทุกคนน่าจะได้มุมคิดดีๆ กลับมาใช้ได้
ด้าน “น้องแคร์”น.ส.ฉัตรฑริกา สิทธิพรม ดารานักแสดงช่อง 3 กล่าวว่า ยังไม่เคยศึกษาเรื่องสามก๊กมาก่อน แต่เมื่อมาได้ฟังก็รู้ว่าเรื่องนี้มีแง่มุมที่หลากหลาย หลังจากนี้ตนจะไปศึกษาเรื่องสามก๊กต่อเพิ่มเติม เพราะเชื่อว่าจะได้มุมคิดดีๆ ไปต่อยอดในชีวิตหรือธุรกิจของเราได้
