FootNote บทเรียน สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ กับบทเรียน สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ

มีเสียงไชโยโห่ร้องด้วยความพึงพอใจจากบรรดา “กองเชียร์”รัฐบาล กองเชียร์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อเห็นรายชื่อล่าสุดในการปรับครม.

โดยเฉพาะเมื่อเห็น นายสุพัฒน์พงษ์ พันธุ์มีเชาวน์ ดำรงตำแหน่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน

เพราะเห็นว่าเป็นชัยชนะของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นชัยชนะเพราะสะท้อนรูปธรรมว่า “กลุ่ม 3 ป.”ผนึกพลังกันอย่างเหนียวแน่นสกัดการรุกคืบเข้ามาของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรือง ได้สำเร็จ

อย่างน้อย นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ก็ยังอยู่ที่เดิม นั่นก็คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ยังอยู่กระทรวงยุติธรรม

ชัยชนะครั้งนี้เท่ากับว่า “กลุ่ม 3 ป.”ได้กำราบความเหิมเกริมของบรรดานักการเมืองในพรรคพลังประชารัฐได้สำเร็จ

อาจเป็นความจริง แต่จะเป็นผลดีต่อ “กลุ่ม 3 ป.”หรือไม่

อย่าลืมเป็นอันขาดว่าปฏิบัติการภายในพรรคพลังประชารัฐตลอดเดือนมิถุนายนที่ผ่านมากระทั่งมีการจัดแถวปรับครม.ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม

มิได้มีแต่กลุ่มของ “นักการเมือง”อย่าง นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน เท่านั้นที่ถูกกำราบ

หากที่สำคัญเป็นอย่างมาก นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ตลอดจน นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ ก็ถูกกำราบเช่นเดียวกัน

อย่างน้อยการกวาดล้างคนเหล่านี้ให้พ้นไปจากพรรคพลังประ ชารัฐ ให้พ้นไปจากรัฐบาล ก็ดำเนินขึ้นภายใต้การชูภาพ พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ ขึ้นสูงเด่น

แต่เมื่อถึงบทจบก็มิได้มีเพียง “กลุ่ม 4 กุมาร”เท่านั้นที่ถูกสยบ หาก นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ก็ถูกสยบ

เป็นการสยบให้ราบคาบภายใต้อำนาจของ “กลุ่ม 3 ป.”

ชะตากรรมของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และ “กลุ่ม 4 กุมาร”จึงมิได้แตกต่างไปจากชะตากรรมของ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุลและคณะ เคยประสบมาแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2558

เพียงแต่ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์และ “กลุ่ม 4 กุมาร”ประสบในเดือนกรกฎาคม 2563

และไม่มีใครตอบได้ว่าชะตากรรมของ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ของ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะเป็นอย่างไรต่อไป

ภายใต้วงจรแห่งอำนาจอันแข็งแกร่งของ “กลุ่ม 3 ป.”

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน