FootNote:สารอันสื่อผ่าน ปรีดี ดาวฉาย ส่งตรงจาก “พลังประชารัฐ”
กรณีของ นายปรีดี ดาวฉาย เป็นกรณีศึกษาอันละเอียดอ่อนยิ่งทาง การเมืองของความสัมพันธ์และการทำงานร่วมกันระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคร่วมรัฐบาล
แต่เดิมคนมักมองไปยังกระบวนการทำงานระหว่างนายกรัฐมนตรีกับพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา
และมองข้ามการทำงานร่วมกับพรรคพลังประชารัฐไป
เนื่องจากประเมินว่าพรรคพลังประชารัฐเหมือนกับเป็นหมูในอวยอยู่แล้ว เพราะอาศัยใบบุญของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา สร้างความเติบใหญ่
ยิ่งกว่านั้น พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังรุกคืบเข้าไปดำรงตำแหน่งเป็นประธานยุทธศาสตร์ และในที่สุดก็ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
จึงเท่ากับว่าพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคภายใต้อาณัติของคสช. เป็นเหมือนชิ้นปลามันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
คำถามก็คือ พรรคพลังประชารัฐยินยอมเช่นนั้นจริงละหรือ
Advertisement
ปมเงื่อนอยู่ที่ในการจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 แม้จะถือว่าโควต้าบางกระทรวงอยู่ในความรับผิดชอบของนายกรัฐมนตรี
แต่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังคือ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ
รัฐมนตรีกระทรวงแรงงานคือเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ
เนื่องจาก นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ทำงานอยู่ในทีมของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ และร่วมงานกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาแต่ต้น
ความสัมพันธ์ของรัฐมนตรีเหล่านี้กับรัฐมนตรีและส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐ จึงดำเนินไปด้วยความราบรื่น
แต่ถึงจะราบรื่นแค่ไหนก็ยังมีปัญหาเกิดขึ้นจนได้
เป็นปัญหาที่ในที่สุด นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ นายอุตตม สาวนายน นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ก็ถูกขับออกไปทั้งยวง
โดยที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พูดไม่ออกได้แต่กลอกหน้า
จากยุคของ นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ มายังยุคของ นายสุพัฒนพงษ์ พันธุ์มีเชาวน์ นายปรีดี ดาวฉาย สภาพการณ์ไม่เหมือนเดิมอีกแล้ว การต้อนรับน้องใหม่กับ นายปรีดี ดาวฉาย จึงได้บังเกิด
นี่จึงเป็นการส่งสารโดยตรงไปยังนายกรัฐมนตรี ไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากพรรคพลังประชารัฐ
