คอลัมน์ บทบรรณาธิการ – ใครเครียด 19 กันยา
ความสำคัญของวันที่ 19 ก.ย. ปีนี้มีถึง 2 วาระ และเป็นวาระที่เกี่ยวโยงกันหนึ่ง รำลึกเหตุการณ์รัฐประหาร 19 กันยา 2549 และสอง การชุมนุมใหญ่ของกลุ่มนักเรียนนักศึกษาและประชาชน
ที่มาของการชุมนุมใหญ่เกี่ยวโยงกับเหตุการณ์เมื่อ 14 ปีก่อน เพราะไม่เห็นด้วยกับการรัฐประหาร ไม่ว่าเกิดขึ้นกับพรรคการเมืองใด กลุ่มการเมืองใด หรือช่วงเวลาใด
คนรุ่นใหม่ปัจจุบันแสดงจุดยืนชัดเจนว่า การปราบปรามการคอร์รัปชั่นต้องแก้ไขในระบอบประชาธิปไตย ต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วม ไม่ต้องอาศัยอัศวินม้าขาวหรือฮีโร่จากกรมกองใดเข้ามายึดอำนาจและคิดว่าจะเคลียร์ปัญหาได้ทั้งหมด
เพราะช่วงเวลาที่คาบเกี่ยวกับชีวิตคนรุ่นใหม่แสดงผลแล้วว่า วิธีการนี้มีแต่จะทำให้ปัญหาแย่ลง
……….
สําหรับการจัดงานรำลึกเหตุรัฐประหาร 19 ก.ย. ติดขัดมาหลายปี นับตั้งแต่เกิดรัฐประหาร 2557 เพราะจำกัดการแสดงออกทางการเมืองด้วยการอ้างเหตุผลเลี่ยงความขัดแย้ง
แต่ปัจจุบันข้ออ้างนี้ใช้ไม่ได้แล้วเช่นกัน ดังนั้นทุกฝ่ายให้ความสนใจทั้งการแสดงออกของประชาชน และการรับมือของภาครัฐว่าจะเปิดกว้างและใช้กฎหมายอย่างเหมาะสมในทางปฏิบัติหรือไม่
กรณีนี้ 6 พรรคร่วมฝ่ายค้านมีแถลงการณ์ร่วมเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดพื้นที่สาธารณะที่ปลอดภัยสำหรับการแสดงออกของประชาชน โดยปราศจากการคุกคาม แทรกแซง ให้ร้าย
และไม่นิ่งเฉยปล่อยให้มีการใช้ความรุนแรง หรือใช้อาวุธสลายการชุมนุมต่อผู้ชุมนุม
……….
ความวิตกกังวลเรื่องความปลอดภัยของ ผู้ชุมนุมเพิ่มสูงขึ้นจากกรณีที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ไม่อนุญาตให้ใช้พื้นที่
ด้านกรุงเทพมหานคร ยืนยันว่าห้ามเข้าใช้สนามหลวงเป็นสถานที่ชุมนุม อนุญาตให้ประชาชนเข้าไปออกกำลังกาย พักผ่อนหย่อนใจเท่านั้น
ขณะที่ทำเนียบรัฐบาลสั่งเพิ่มเจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลเข้าประจำการจำนวน 3 กองร้อย ติดตั้งกล้องซีซีทีวีเพิ่มตามจุดสูงข่มทุกอาคารภายในบริเวณ รวมทั้งยังนำรถเครื่องปั่นไฟสำรองจำนวน 3 คันมาประจำการเพื่อรองรับสถานการณ์ฉุกเฉิน
ความขึงขังของฝ่ายรัฐครั้งนี้เป็นปัจจัยที่ทำให้การชุมนุมวันที่ 19 ก.ย. ตึงเครียดเอง มากกว่าฝ่ายผู้ชุมนุมที่ดำเนินมาอย่างสันติโดยตลอด