FootNote : ภาพ 2 ภาพ เบื้องหน้า รัฐธรรมนูญ ภาพหวงอำนาจ ภาพแห่งการต่อสู้

การประชุมรัฐสภาเมื่อวันพุธที่ 23 กันยายน ไม่ว่าภาพของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ไม่ว่าภาพของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ไม่ว่าภาพของ ส.ว. ล้วนแสดงตัวตนของตนออกมาอย่างเด่นชัด

เมื่อมองผ่านการอภิปรายของ นายวิรัช รัตนเศรษฐ เมื่อมองผ่านการอภิปรายของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน

เมื่อมองผ่านการสาธยายของ นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เมื่อมองผ่านการร่ายยาวจาก นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เมื่อมองผ่านการแจกแจงของ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง

ยิ่งการขยับขับเคลื่อนของ ส.ว.ไม่ว่าจะเป็นการพูดของ นายกิตติศักดิ์ รัตนะวราหะ ไม่ว่าจะเป็นการพูดของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ไม่ว่าจะเป็นการประท้วงของ นายเสรี สุวรรณภานนท์

ทุกอย่างดำเนินไปตามความเป็นจริงอันสังคมไทยโบราณได้สรุปรวบยอดเอาไว้ได้อย่างรวบรัดยิ่ง
นั่นก็คือ สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล ครบถ้วน

ยิ่งการตอบโต้ระหว่าง นายเสรี สุวรรณภานนท์ กับ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ยิ่งเข้าล็อค “ยิ้มเห็นแก้ม แย้มเห็นไรฟัน”

ภาพที่มองอย่างจัดระบบก็จะเห็นการยืนอยู่มุมเดียวกันของ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลกับหลายส่วนของ 250 ส.ว. แตกต่างอย่างเด่นชัดกับ ส.ส.พรรคฝ่ายค้าน

ฝ่ายหนึ่ง ต้องการรักษาองค์ประกอบเดิมของรัฐธรรมนูญเอาไว้ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้
บนพื้นฐาน “รัฐธรรมนูญฉบับนี้ DESIGN มาเพื่อพวกเรา”

ยิ่งบรรดา ส.ว.ซึ่งดำรงอยู่ในสถานะแห่งความเป็นคุณห้อยคุณโหนมากับอำนาจของรัฐประหาร มากับอำนาจของคสช. ยิ่งโจ่งแจ้งล่อนจ้อนว่าอวย พล.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างสุดลิ่มทิ่มประตู

ขณะเดียวกัน บทบาทของฝ่ายค้านไม่ว่าจะมาจากพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ พรรคพลังปวงชนไทย ก็เด่นชัดในจุดยืนของตน

ฝ่ายหนึ่ง ต้องการรักษาของเดิม ต้องการรักษาอำนาจ อีกฝ่าย หนึ่ง ต้องการการเปลี่ยนแปลง ต้องการการแก้ไข

ภายหลังผ่านการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มาแล้วแม้ด้านหลักอำนาจเผด็จการจะเป็นด้านครอบงำ แต่ด้วยการแข็งขืนต่อสู้ฝ่ายค้านก็สามารถยึดครองพื้นที่สร้างเวทีขึ้นมาได้

พร้อมกับการวิพากษ์โจมตีและเสนอสิ่งใหม่เข้ามาให้เห็น

ในที่สุดแล้วปัจจัยที่จะชี้ขาดและให้คะแนนคือความเห็นร่วมของสังคมโดยรวม

เกาะติดข่าว กดติดตามไลน์ ข่าวสด
เพิ่มเพื่อน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน