FootNote : คำถาม บทบาท ประชาธิปัตย์ หางเครื่อง ในระบอบประยุทธ์
สถานการณ์เมื่อวันที่ 24 กันยายน ยิ่งฉายชัดว่าข้อเสนอว่าด้วยการตั้ง”คณะกรรมาธิการ”เพื่อเตะถ่วง ซื้อเวลาการแก้ไข”รัฐธรรมนูญ”ให้เนิ่นช้าออกไปอีกอย่างน้อย 45 วัน
เป็น”กลยุทธ์”อันมาจากสมองก้อนโตของ”เสนาธิการ”แห่งพรรคพลังประชารัฐ
ไม่เพียงแต่ นายชวน หลีกภัย จะรับรู้ล่วงหน้าเพียงไม่กี่ชั่วโมง
หากแม้กระทั่งพรรคประชาธิปัตย์อันเป็นส่วนหนึ่งอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลก็เพิ่งจะรับรู้เอาในวันที่ 24 กันยายน นั้นเอง
ทั้งนี้ จึงแทบไม่จำเป็นต้องกล่าวว่า พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติ ไทยพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท พรรครักษ์ผืนป่าประเทศไทย จะได้รับแจ้งก่อนหรือหลังพรรคประชาธิปัตย์
ปฏิกิริยาอันมาจาก ส.ส.กว่า 40 คนของพรรคประชาธิปัตย์ จึงเข้าใจได้ ปฏิกิริยาอันมาจากแกนนำคนสำคัญของพรรคชาติไทยพัฒนาและพรรคพลังท้องถิ่นไทจึงเข้าใจได้
ต้องยอมรับว่า รอย”ร้าว”ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลกับพรรคพลังประชารัฐได้ลง”ลึก”อย่างชวนให้ระทึกใจอย่างยิ่ง
ความเป็นจริงที่พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท มิอาจปฏิเสธได้ก็คือกลยุทธ์อันปรากฏในวันที่ 24 กันยายน ดำเนินไปอย่างไร
นี่คือการผนึกตัวรวมพลังระหว่างส่วนใหญ่ของ ส.ว.กับพรรคพลังประชารัฐ
นี่คือเสียงข้างมากอย่างเป็นรูปธรรมใน”รัฐสภา”
เมื่อสามารถผนึกตัวรวมพลังของพรรคพลังประชารัฐเข้ากับด้านหลักของ 250 ส.ว.เสียแล้วแทบไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องแยแสสนใจพรรคการเมืองอื่น
นี่คือการก่อรูปของ”ระบอบประยุทธ์”ขึ้นมาอย่างเป็นระบบเป็น กระบวนการ
กลายเป็นพลังในการยึดกุมและสืบทอดอำนาจทางการเมือง
พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท เสมอเป็นเพียง”หางเครื่อง”เท่านั้น
คำถามที่แหลมคมยิ่งขึ้นเป็นลำดับเป็นคำถามต่อบทบาทและความ หมายของพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคพลังท้องถิ่นไท
ว่าพึงพอใจกับสถานะแห่งการเป็น”หางเครื่อง”เพียงใด
ว่าอามิสบรรณาการอันได้มาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อิ่มหนำสำราญกระทั่งมองข้ามบทบาทความหมายของตนหรือ