FootNote : ปฏิบัติการ อาวุธ ความรุนแรง ศึกษาไทยรักไทย อนาคตใหม่

มีความรุนแรงเกิดขึ้นในสังคมการเมืองของไทย ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 ไม่ว่าจะเป็นรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557
นั่นเป็นความรุนแรงจากปฏิบัติการทาง “ทหาร” เพื่อต้องการแก้ไขปัญหาในทาง “การเมือง”
จากนั้นจึงตามมาด้วยปฏิบัติการทาง “การเมือง” โดยกำหนดเป้าหมายว่าจะคลี่คลายและแก้ปัญหาขัดแย้งและยุ่งยากในทางการ เมืองให้ผ่อนเบาลง
จากรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 เราเห็นการจัดตั้งคณะกรรมการคตส. เราเห็นการยุบพรรคไทยรักไทย เราเห็นการไล่ล่านายทักษิณ ชินวัตร
จากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 เราเห็นการร่างรัฐธรรมนูญ เราเห็นการเลือกตั้ง และเราเห็นการยุบพรรคอนาคตใหม่เช่นเดียวกับการยุบพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน
คำถามก็คือ การยุบพรรคสามารถบดขยี้ นายทักษิณ ชินวัตร สามารถบดขยี้ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้หรือไม่

รูปธรรมอันตามมาก็คือ เมื่อยุบพรรคไทยรักไทยก็เกิดพรรคพลังประ ชาชน เมื่อยุบพรรคพลังประชาชนก็เกิดพรรคเพื่อไทย
ข้ออัศจรรย์ก็คือเป้าหมายมิได้แหลกละเอียด
นายทักษิณ ชินวัตร อาจไม่สามารถอยู่ในประเทศ แต่เลือกตั้ง เดือนธันวาคม 2550 พรรคพลังประชาชนก็ชนะ เลือกตั้งเดือนกรกฎาคม 2554 พรรคเพื่อไทยก็ชนะ
ยิ่งกว่านั้น ในการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 พรรคเพื่อไทยก็ยังได้รับเลือกเป็นพรรคอันดับ 1
จากกรณีของพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน มาถึงพรรค อนาคตใหม่ เมื่อยุบพรรคอนาคตใหม่ในเดือนกุมภาพันธ์ 2563 ก็เกิดพรรคก้าวไกล
แล้ว นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ก็เคลื่อนผ่าน “คณะก้าวหน้า”
ไม่ว่าพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าพรรคก้าวไกล ไม่ว่าคณะก้าวหน้า ยังได้รับความเชื่อมั่นและศรัทธาจากสังคมไม่แปรเปลี่ยน

ไม่ว่าความรุนแรงในทาง “การทหาร” ไม่ว่าความรุนแรงในทาง “การเมือง” ได้พิสูจน์จากกรณีพรรคไทยรักไทย จากกรณีพรรคอนาคตใหม่ ได้อย่างเด่นชัดว่า
ปฏิบัติการและความรุนแรงมิได้ชี้ขาดในเรื่อง “ชัยชนะ”
ชัยชนะอย่างแท้จริงอยู่ที่การเอาชนะในทาง “ความคิด” อยู่ที่การสยบในทาง “ความคิด”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน