คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ประชาธิปไตยท้องถิ่น – การรับสมัครผู้เสนอตัวลงเลือกตั้งในตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) และ สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) ทั่วประเทศจะเปิดรับไปจนถึงวันที่ 6 พฤศจิกายน

ในวันแรกที่รับสมัครนั้น บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก คับคั่ง มีผู้อาสาทำงานด้านการเมืองระดับท้องถิ่นเป็นจำนวนมาก จังหวัดใหญ่ๆ บางจังหวัด มีผู้เสนอตัวถึง 4-5 คน ทั้งในนามพรรคการเมือง กลุ่มการเมือง และผู้สมัครอิสระ

ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง ระบุว่า เห็นถึงความคึกคัก ทั้งของผู้สมัครและผู้สนับสนุน สะท้อนให้เห็นถึงการตื่นตัวของประชาชนต่อการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่เริ่มจากการเลือกตั้งในระดับอบจ. ที่จะมีขึ้นวันที่ 20 ธ.ค.

ต่อจากนี้ย่อมเป็นหน้าที่ของกกต. จะต้องดำเนินการเพื่อให้เกิดความโปร่งใส บริสุทธิ์ ยุติธรรม จนกว่าจะประกาศผลคะแนน

จากนี้ไปการเมืองที่เคยเงียบเหงา ท้องถิ่น ถูกแทรกแซงโดยอำนาจรัฐ ปราศจากการเลือกตั้งมาเกือบ 7 ปี ก็จะกลับมาสู่มือของประชาชนอีกครั้ง เพื่อกำหนดทิศทางของตนเอง

พระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ.2562 มีข้อกำหนด บางอย่างเกี่ยวกับการหาเสียงไว้ เพื่อให้การ เลือกตั้งเป็นไปตามเจตจำนงของประชาชนในถิ่นนั้นๆ จริงๆ

เช่น ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา ผู้บริหารท้องถิ่น สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ ไม่สามารถหาเสียงช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งได้

แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าในความเป็นจริงไม่ได้ เป็นเช่นนั้นแน่นอน

ในส่วนรัฐบาลเอง แม้ว่าพรรคร่วมรัฐบาล บางพรรค ไม่ได้ส่งผู้สมัครลงในนามพรรค การเมือง แต่ก็เป็นที่รู้กันว่าพรรคใดให้การสนับสนุน ผู้สมัครคนใด หรือเอื้อประโยชน์ต่อกลุ่มการเมืองใด

เพราะการเมืองท้องถิ่นย่อมต้องยึดโยง ไม่มีทางตัดขาดกับการเมืองระดับชาติได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับ ความเหมาะสม และกฎหมาย ซึ่งแน่นอนจะต้องมีเรื่องร้องเรียนกันตามมา

คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการ เลือกตั้งประจำท้องถิ่น ตลอดจนหน่วยงานที่มี หน้าที่บังคับใช้กฎหมาย มีส่วนสำคัญมากในการ สอดส่อง ดูแล เพื่อให้การแข่งขันเป็นไปตามกฎกติกา ไม่ให้ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดได้เปรียบหรือเสียเปรียบ

ยึดหลักความเป็นธรรม เท่าเทียม และเสมอภาค

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน