ยิ่งนานม็อบยิ่งแกร่ง – ม็อบราษฎรยืนยัน ไม่ร่วมปรองดองปาหี่ แล้วนัดชุมนุมทันที สี่โมงเย็นวันอาทิตย์นี้ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ซึ่งบังเอิญครบ 73 ปี รัฐประหาร 8 พฤศจิกายน 2490 ฟื้นอำนาจฝ่ายอนุรักษนิยม

“ยิ่งนานเรายิ่งแข็งแกร่ง” ไผ่ ดาวดิน กล่าวในวันเดียวกับที่ไปดีเบตรายการจอมขวัญ ซึ่งผู้ชมทางบ้านทึ่ง ว่ายังสามารถรักษาสติสัมปชัญญะ ไม่หัวร่องอหายก็เก่งเหลือหลาย

เพียง 3 เดือนครึ่ง ม็อบที่นำโดยคนรุ่นใหม่ แผ่ขยายเติบใหญ่อย่างรวดเร็วและเข้มแข็ง ทั้งที่เสนอประเด็นท้าทาย ทำให้คนรุ่นเก่าอกสั่นขวัญแขวน ติดเพดาน ทะลุเพดาน ครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ละครั้ง สื่อฝั่งอนุรักษนิยมก็ปรามาส มวลชนไม่เอา เสื้อแดงไม่เอา ฝ่อแล้ว ถอยแล้ว แต่ตรงกันข้าม ยิ่งถูกจับ ถูกสลาย ใช้ประกาศฉุกเฉินร้ายแรง ใช้รถฉีดน้ำ หรือปลุกพลังมวลชนขึ้นต้าน (พร้อมบริการห้องน้ำ) กลับทำให้ม็อบยิ่งเบิ้มๆ

จนกระทั่งเกิดปรากฏการณ์อำนาจศาลคืนความยุติธรรม หลังจากไม่ให้ประกันตัวมาหลายครั้ง จนนายประกันท้อ

แต่หลังจากศาลอุทธรณ์ให้ประกันไผ่ ศาลอาญายกคำร้องขอหมายจับมายด์ ปลายสัปดาห์ศาลอาญาก็ยกคำร้องฝากขัง ไมค์ เพนกวิน รุ้ง ซึ่งกลายเป็นเรื่องใหญ่ เพราะตำรวจแห่ส่งหมายอายัด นอกเครื่องแบบคุมตัวไป สน.ประชาชื่น โดยไม่ฟังคำทักท้วงของทนาย ประชาชนไปม็อบล้นหน้าโรงพัก ในโลกออนไลน์แจกอวัยวะกันลั่น

กระแสสังคมวันนั้น เห็นชัดว่าเอาใจช่วย อย่างน้อยก็เห็นใจอยากให้ปล่อย แต่ตำรวจไม่แยแส อ้างอำนาจตามกฎหมาย ชูหมายจับอีก 80 ใบ ที่ไหนได้ ศาลอยุธยา ศาลระยอง ศาลแขวงปทุมวัน ทยอยถอนหมายจับ แล้ววันจันทร์ก็ยกคำร้องฝากขังทนายอานนท์ สมยศ และ 2 ผู้ต้องหาคดีร้ายแรง “ประทุษร้ายเสรีภาพพระราชินี” เอกชัย สุรนาถ ซึ่งรายหลังถูกเอาไปขังที่บางขวาง

คราวนี้ตำรวจเงียบกริบ ไม่ยักขออายัดเพิ่ม แต่ออกหมายเรียกไม่หยุด รวมทั้งธนาธร ปิยบุตร ช่อ ตามที่พุทธะอิสระแจ้งจับยุยงปลุกปั่น โดยยังไม่รู้ว่ามีพยานหลักฐานอะไร เพราะไม่ใช่ใครแจ้งจับใคร ตำรวจก็ต้องทำให้ทุกราย

แม้ยังงงๆ แต่ในสายตาประชาชน ก็ปรบมือให้ศาล

ในทางการเมือง แรงกดดันจากม็อบ ก็ทำให้หลายฝ่ายออกมาเรียกร้องรัฐบาล แม้กระทั่งอดีตนายกฯ อานันท์ ซัดประยุทธ์ผิดมา 7 ปี ฟังม็อบบ้าง เห็นชัดว่าเป็นความเห็น elite อีกฝ่าย แต่ลิ่วล้อประยุทธ์ก็แห่ถล่มโดยไม่ดูสารรูปตัวเอง

หลายวันที่ผ่านมา สถานการณ์ดูเหมือนเย็นลง แต่อย่าปรามาสว่าม็อบปลุกไม่ได้อีก เพราะความเคลื่อนไหวไม่ได้หยุด อยู่ระหว่างตอกย้ำความหนักแน่น ช่วงชิงชนะใจคน เช่นการดีเบตออกทีวี ที่แม้พูดคนละภาษา เชียร์คนละข้าง แต่ความนิ่ง มีมารยาท มีเหตุผล ของคนรุ่นใหม่ ก็ทำให้คนดูฉุกใจคิดว่านี่หรือ ที่กล่าวหาว่าม็อบมีเบื้องหลัง รับเงินต่างชาติ ถูกล้างสมอง สั่งการทางมือถือ (ไม่รู้ใครป่วยกันแน่)

สาธารณชนที่มีสติก็เห็น การปั่นเฟกนิวส์ การโจมตีให้ร้ายด้วยความคลั่ง กระทั่งไมค์ เพนกวิน รุ้ง กินกุ้งเผาก็ผิด นอนโรงพยาบาลก็ผิด ทั้งที่จ่ายเอง ถ้าไม่มีเงินประกาศแป๊บเดียวหาได้เป็นล้าน เพราะคนชั้นกลางที่สนับสนุนมีจำนวนมาก ไม่จำเป็นต้องพึ่งนักการเมือง

หาว่านักการเมืองอยู่เบื้องหลัง? ที่ถูกคือนักการเมืองเดินตามหลัง คนรุ่นใหม่เดินนำ ถ้าคณะก้าวหน้าก้าวไกลเพื่อไทยไม่เดินตาม เขาก็ไม่เลือก สมมติธนาธรขึ้นเวที ขอให้ลดเพดาน ก็อาจโดนรองเท้าขว้างเป็นแสนคู่

NGO รับเงินต่างชาติ นี่คำพูดทักษิณ NGO เข้าไปอยู่ในม็อบพันธมิตร กปปส.เยอะไป ตลกร้ายขนาดกล่าวหา อังคณา นีละไพจิตร ซึ่งสามีถูกอุ้มฆ่าในยุคทักษิณ

เว็บไซต์ iLaw เปิดเผยมานานว่ารับทุนจากไหนบ้าง พอจะหาเรื่องล้มร่างรัฐธรรมนูญของประชาชนแสนชื่อ ก็หาว่าต่างชาติอยู่เบื้องหลัง

ทั้งหมดนี้คืออาการป่วย ของพวกอนุรักษนิยมสุดโต่งที่ไม่ยอมรับความจริง ไม่เชื่อว่าโลกของตัวเองกำลังแตกสลาย

ม็อบคนรุ่นใหม่ยิ่งนานยิ่งแกร่ง เพราะความเสื่อมของฝ่ายอำนาจเอง ตั้งแต่ความไม่ชอบธรรมของรัฐประหารสืบทอดอำนาจ บริหารประเทศห่วยก็เปลี่ยนไม่ได้ ภาพลักษณ์นักการเมืองก็เลวร้ายไม่ต่างจากที่ด่าคนอื่น แล้วยังดื้อรั้น ดันทุรัง พูดจาหน้าด้านๆ แบบ 250 ส.ว.ก็มาจากรัฐธรรมนูญ

ศีลธรรมสาธารณะก็เสื่อม มีแต่อวดอ้าง ไม่มีแบบอย่างให้ยึดเหนี่ยว คนที่ออกมาตอบโต้กับม็อบเป็นคนเคยต้องคดีอย่างพุทธะอิสระ “เสี่ยโป้สู้ๆ”

บนความเสื่อมนี้เอง ม็อบราษฎรจึงหาญกล้า พาขึ้นรถไฟเหาะตีลังกา ไต่เส้นลวด ท้าทายอำนาจที่ใหญ่โตมหึมา แต่ไม่สามารถจัดการม็อบได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน