FootNote:บทบาท ธนาธร คณะก้าวหน้า พยัคฆ์เสียบปีก สนามท้องถิ่น
ภาพที่ไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช เดินสายหาเสียงในแต่ละพื้นที่ทั้ง 42 จัง หวัดที่มีคนของคณะก้าวหน้าลงสมัครรับเลือกตั้ง
สร้างความยอกแสลงใจเป็นอย่างสูงให้กับเหล่าปรปักษ์ทางการเมือง ที่เคยเข็ดเขี้ยวพรรคอนาคตใหม่มาอย่างรุนแรง
อย่าได้แปลกใจหากจะมีความพยายามในการส่งคนของตน 3 คนบ้าง 10 คนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นที่พระนครศรีอยุธยา ไม่ว่าจะเป็นที่ยโสธร ไม่ว่าจะเป็นที่นครสวรรค์
และรุนแรงถึงขนาดมีการระดมมวลชนข้ามจังหวัดจากกระบี่และสุราษฎร์ธานีเพื่อไปปิดล้อม นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หน้าโรงแรมแห่งหนึ่งในนครศรีธรรมราช
กระนั้น จนแล้วจนรอดไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ล้วนเล็ดรอดไปขึ้นปราศรัยบนเวทีได้อย่างชนิดลอยนวล
แม้จะตัดสิทธิทางการเมือง แต่ก็มิได้หมายความว่าจะตัดการเคลื่อนไหวให้จบสิ้นลงไปได้อย่างสิ้นเชิง
ที่น่าเจ็บใจเป็นอย่างมากเนื้อหาการพูดไม่ว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ไม่ว่า นายปิยบุตร แสงกนกกุล ไม่ว่า น.ส.พรรณิการ์ วานิช ก็ดำเนินไปเหมือนกับยังเป็นพรรคอนาคตใหม่
เริ่มต้นจากการวิพากษ์”รัฐราชการรวมศูนย์” ตามมาด้วยการทะลวงไปยังการใช้”อภิสิทธิ์ อิทธิพล”ทางการเมือง
แล้วยุติตรงที่การขับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออกไป
คิดดูก็แล้วกัน ทั้ง นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ทั้ง นายปิยบุตร แสงกนกกุล ทั้ง น.ส.พรรณิการ์ วานิช แม้ไม่ได้เดินสายไปจนทั้ง 70 กว่าจังหวัดทั่วประเทศ
แต่การส่งคนของคณะก้าวหน้าลงสมัครจำนวนมากถึง 42 จังหวัด นั่นหมายถึงว่า นายธนาธร จึงรุ่งเรือง นายปิยบุตร แสงกนกกุล น.ส.พรรณิการ์ วานิช ลงไปครบทั้ง 42 จังหวัด
เป็นการลงไปเพื่อวิพากษ์โจมตี”รัฐราชการรวมศูนย์”และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าผลการเลือกตั้งในวันอาทิตย์ที่ 20 ธันวาคม จะออกมาแบบใด เป็นชัยชนะ เป็นชัยชนะระดับใด นั่นหมายถึงการเป็นกระดานหกใน ทางการเมืองอย่างสำคัญ
เพราะเสร็จเลือกตั้งอบจ.ยังมีการเลือกตั้งเทศบาล ยังมีการเลือกตั้งอบต.และการเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ตามมา
ทั้ง”ธนาธร ปิยบุตร พรรณิการ์” ก็ยังโลดแล่นอย่างคึกคัก
