FootNote:บทบาทบ้านใหญ่ ใน”สื่อใหม่” ขุดคุ้ย เปิดโปง “บ่อน” ระยอง

กรณี “บ่อนระยอง” อันมาพร้อมกับการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 จากตลาดกุ้งสมุทรสาคร กำลังเป็นสันปันน้ำอย่างสำคัญชี้ให้เห็น ถึงพลังของ”โซเชียลมีเดีย”

เพราะเมื่อปรากฏเป็นข่าวขึ้นก็ได้รับการปฏิเสธอย่างฉับพลันทันใดจากตำรวจระยองว่า ระยองไม่มี”บ่อน”

ไม่เพียงแต่ตั้งโต๊ะแถลงข่าวมีตั้งแต่ระดับผู้บังคับการ ระดับผู้กำกับการ ระดับ 4 เสือ นั่งเรียงแถวยืนหยัดพร้อมกับภาพการลงตรวจ ณ สถานที่ต้องสงสัยว่าอาจเป็นบ่อน

คำยืนยันจากเจ้าหน้าที่ตำรวจขัดแย้งกับความรับรู้ของชาวบ้าน อันมาจากแหล่งข่าวหลายระดับด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นหนังสือของสาธาณสุขจังหวัดชลบุรี ไม่ว่าจะเป็นความรู้สึกของคนในพื้นที่

คล้อยหลังคำแถลงของเจ้าหน้าที่ตำรวจเพียงไม่กี่นาทีข้อมูลก็ไหลออกมาอย่างคึกคักหนักแน่น ไม่ว่าจะเป็นคลิปซึ่งบันทึกเอาไว้ ไม่ว่าจะเป็นกูเกิ้ลแม็ประบุสถานที่

ผลก็คือมีคำสั่งผบ.ตร.ย้ายผู้บังคับการจังหวัด ย้ายนายตำรวจที่เรียกกันว่า 4 เสือแห่งสภ.ระยอง

บทบาทอันโดดเด่นของการแพร่กระจายข่าวสารและข้อมูลทั้งหมดนี้ 1 เป็นเรื่องของคนในพื้นที่ และ 1 เป็นการแพร่กระจายผ่านโซเชียลมีเดีย ก่อนที่จะกลายเป็นข่าวทางโทรทัศน์และหนังสือพิมพ์

นั่นสะท้อนให้เห็นบทบาทของ “สื่อใหม่” นั่นสะท้อนให้เห็นบทบาทของ “สื่อเก่า”

ต้องยอมรับว่าพื้นที่จังหวัดระยองเป็นพื้นที่ในความยึดครองของ”บ้านใหญ่”แห่งตระกูล”ปิตุเตชะ” ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ไม่ว่าจะเป็น ส.ส.เขต ไม่ว่าจะเป็นนายกอบจ.

การดำรงอยู่ของ”บ่อน”โดยที่ไม่อยู่ในความรับรู้ของ”บ้านใหญ่” จึงนับว่าเป็นการเสียหน้าอย่างชนิดแตกแหกเป็นริ้ว ฉะนั้นอย่าได้แปลกใจหากจะเห็นท่าทีอันขึงขังจากตระกูล”ปิตุเตชะ”

โดยเฉพาะจาก นายสาธิต ปิตุเตชะ อันถือเป็น”หัวขบวน”

เป็นหัวขบวนในพรรคประชาธิปัตย์ เป็นหัวขบวนในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข

ช่องทางของ นายสาธิต ปิตุเตชะ เป็นช่องทางแห่ง “โซเชียลมีเดีย” โดยเฉพาะการระบุว่า มีผู้ตายคนหนึ่งเคยเป็นคนโบกรถประจำอยู่ในบ่อนอันอื้อฉาว

นี่ย่อมเป็นการอาศัยช่องทางแห่ง”สื่อใหม่”ในการเปิดโปง และโจมตีการดำรงอยู่ของ”บ่อน”อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน