FootNote:จากกรณีโฆษก กรณี หมอชนะ ไปถึงบ่า ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในกลุ่ม”โฆษก”ของศบค.ในการแถลงเรื่องโควิด ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นภายในการสร้างแอพพลิเคชั่น”หมอชนะ” ภายในกระบวนการต่อกรกับโควิด
ทางหนึ่ง สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาการขบเหลี่ยมกันเองภายใน ทางหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงปัญหาอันเนื่องจากการบริหารจัดการ
คล้ายกับเมื่อเป็นเรื่องของ “โฆษก” ก็ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับหรือ เป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล คล้ายกับเมื่อเป็นเรื่องของ”แอพพลิเคชั่น”ก็น่าจะเป็นเรื่องของของบรรดานักไอทีทั้งหลาย
ไม่มีอะไรเกี่ยวกับรัฐบาล ไม่มีอะไรที่จะเป็นผลสะเทือนไปถึงตัว พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เนื่องจากเรื่องทั้งหมดนี้ล้วนมีระยะห่างจากทำเนียบรัฐบาลเป็นอย่างมาก
คำถามที่ตามมาก็คือ รายละเอียดคำแถลงจาก”โฆษก”กระทบ ต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลหรือไม่ ยิ่งเรื่องของแอพพลิชั่น”หมอชนะ” ยิ่งมากด้วยความละเอียดอ่อน
กระทรวงดิจิทัลไปทำอย่างไรนักพัฒนาแอพพลิเคชั่นจึงต้องหนีกระเจิง โฆษกไปทำอย่างไรจึงต้องมีการเปลี่ยนตัวกะทันหัน
จากแถลงของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจระบุว่า นักพัฒนาแอพพลิเคชั่นซึ่งเคยมีบทบาทมิได้”ถอนตัว”หากแต่ได้มอบหมายให้กระทรวงรับผิดชอบอย่างชนิดร้อยละร้อย
เหมือนกับนี่คือความเสียสละของนักพัฒนาแอพพลิเคชั่น แต่ในความเข้าใจของชาวบ้าน อย่างนี้แหละที่เรียกว่า “ถอนตัว”
ความหมายหมายความว่าพวกเขาไม่อยากยุ่ง ไม่เกี่ยวข้อง
เช่นเดียวกับกรณีการเปลี่ยนตัว”โฆษก”ที่เจื้อยแจ้วประจำวันใน รายละเอียดการแพร่ระบาดของไวรัส โควิด ก็ต้องยอมรับว่าโฆษกคนก่อนได้ตกอยู่ในวังวน”ทราบแล้วเปลี่ยน”อย่างต่อเนื่อง
ทราบว่าจะมีการ”ล็อกดาวน์”แล้วเปลี่ยนเป็นประกาศใช้มาตรการเข้มข้นถึงที่สุด ทราบว่าใครไม่มีแอพพลิเคชั่นหมอชนะอาจมีความผิด เปลี่ยนเป็นไม่มีการบังคับแต่อย่างใด
ทั้งหมดนี้ล้วนสะท้อนกระบวนการในการบริหารจัดการอันเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ทั้งสิ้น
ถามว่าบรรทัดสุดท้ายของความสำเร็จและความล้มเหลวในการต่อกรกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ไม่ว่าเมื่อปี 2563 ไม่ว่าในปี 2564 อยู่ที่ใคร
คำตอบเด่นชัดอย่างยิ่งว่า อยู่ที่รัฐบาลและอยู่ในความรับผิดชอบเต็มๆของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ยากยิ่งที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะปัดปฏิเสธได้