คอลัมน์ ใบตองแห้ง

กปปส.คุกไร้ค่า – “เสียสละ” “อุดมการณ์” ต่อสู้เพื่อชาติบ้านเมือง ทำเพื่อชาติศาสน์กษัตริย์ ฯลฯ สารพัดจะฟูมฟาย บางรายก็ยกเป็นตำนาน หลังศาลตัดสินจำคุก 27 แกนนำ กปปส. โดย 8 รายโดนขังจริงระหว่างยื่นประกันต่อศาลอุทธรณ์

เสียสละเพื่อ? ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง คงใช่มั้ง แต่เลือกตั้งแล้วเป็นอย่างไร กลุ่มก๊วนการเมืองที่เคยอยู่กับพ่อแม้วแล้วย้ายมาห้อย “หลวงพ่อป้อม” แอบจุดพลุฉลอง หลังเก้าอี้ รมต.กปปส.ว่าง 2 ตำแหน่ง

ไม่กี่วันก่อน ทยา ทีปสุวรรณ ยังดิ้นรนจะสมัครผู้ว่าฯ กทม. สังกัดพรรค พปชร. แต่ดอกแรก สามีโดนสั่งสอน ได้คะแนนไว้วางใจน้อยสุด ดอกสอง โดนตัดสิทธิทั้งผัวทั้งเมีย เหลือแค่ประกันผัวแล้วกลับไปนอนท่อง “โตไปไม่โกง”

ในทัศนะประชาธิปไตย ไม่ควรมีใครติดคุกเพราะไล่รัฐบาล แต่ กปปส.ยังรับโทษน้อยไปด้วยซ้ำ เพราะ กปปส.ไล่รัฐบาลจนยุบสภาแล้วกลับขัดขวางกระบวนการประชาธิปไตย ปิดเมือง ขัดขวางเลือกตั้ง บุกสถานที่ราชการ มุ่งทำให้ “รัฐล้มเหลว” แล้วตั้งตนเป็นรัฏฐาธิปัตย์

แม้รู้กันว่ามันไม่จริง แค่สร้างสถานการณ์ให้ประยุทธ์รัฐประหาร แต่ก็ต้องเรียกร้องอัยการ ให้ยื่นอุทธรณ์ฎีกาเอาผิดฐาน “กบฏ” ที่ศาลชั้นต้นเห็นว่าไม่ผิด

ย้ำว่าในฐานะเพื่อนมนุษย์ ไม่ได้ดีใจที่ กปปส.ติดคุก แต่ถ้าจะพิทักษ์ประชาธิปไตย โทษแค่นี้ยังไม่สาสมด้วยซ้ำ

ยิ่งกว่านั้นยังเป็นอย่างที่ อ.สมชาย ปรีชาศิลปกุล เตือนไว้ “คดียังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพ กปปส.” คดีเสื้อแดงศาลชั้นต้นศาลอุทธรณ์จำคุก 1 ปี ศาลฎีกาจำคุกตลอดชีวิต ก็มีให้เห็นแล้ว

โดยหลักกฎหมาย 8 แกนนำควรได้สิทธิประกันตัว เพราะรัฐธรรมนูญถือเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าคดีถึงที่สุด แต่ 4 แกนนำม็อบราษฎรก็ควรได้ประกันตัวเช่นกัน นั่นศาลชั้นต้นยังไม่พิพากษาเลยด้วยซ้ำ การอ้างเหตุผลว่าจะไปทำผิดอีก เท่ากับตัดสินล่วงหน้าว่าการกระทำนั้นเป็นความผิด

ไม่ว่าจะเห็นด้วยกับม็อบหรือไม่ ประชาชนทั่วไปก็เห็นประจักษ์ว่า ม็อบราษฎรไม่ได้สร้างความเสียหายร้ายแรงอย่าง กปปส. แต่กลับโดนคดีหนักกว่าหลายเท่า อาจติดคุกเป็นพันปี

ในหลักประชาธิปไตย ก็ไม่เห็นด้วยกับการที่รัฐมนตรีแค่โดนศาลชั้นต้นตัดสินจำคุก ต้องตกเก้าอี้ทันที หรือแค่ ส.ส.ถูกคุมขัง ก็อาจหลุดจากความเป็นผู้แทนของประชาชนที่เลือกตั้งมา รวมทั้งไม่เห็นด้วยกับโทษตัดสิทธิเลือกตั้งทุกกรณี เพราะสิทธิเลือกตั้งเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นประชาชน เหมือนสิทธิในชีวิตทรัพย์สิน

กระนั้นก็รู้สึกสมควรแล้ว เพราะพวกเขาขัดขวางเลือกตั้ง ตัวเองไม่อยากเลือกตั้งแล้วยังไปทำลายการใช้สิทธิใช้อำนาจอธิปไตยของประชาชนทั้งประเทศ ขณะที่ตำแหน่งรัฐมนตรี ก็ถูกมองว่ารัฐประหารสืบทอดอำนาจ “ต่างตอบแทน”

ที่ชวนหัวร่อขบขันคือ กลไกรัฐธรรมนูญมีชัยเขียนไว้ป้องกันฝ่ายตรงข้ามเป็นรัฐบาล แต่กลับมาโดนกันเอง

ที่ชวนหัวกว่านั้น คือหลังคำพิพากษาที่รัฐมนตรี กปปส.ตกเก้าอี้ กลับไม่มีผลให้รัฐบาลสะดุ้งสะเทือน เหมือนรื้อ “นั่งร้าน” แล้วได้โควตามาแบ่งกันด้วยซ้ำไป

กปปส.เป็นนั่งร้านให้รัฐประหารมาตั้งแต่แรก พอสืบทอดอำนาจก็อาศัยนักการเมืองอุปถัมภ์ กวาดต้อนมาจากอดีตเพื่อไทย ไทยรักไทย นักการเมืองที่คนชั้นกลางเคยยี้ ผ่านไปสองปี กลายเป็นฐานอำนาจที่แน่นหนากว่าอดีต กปปส.ด้วยซ้ำไป

ไหนล่ะ ปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง ไหนล่ะ เลือกผู้ว่าราชการจังหวัด สลิ่มนกหวีดกลับดีอกดีใจที่พวก “ไอ้ทอน” แพ้บ้านใหญ่

ควันหลงอภิปรายไม่ไว้วางใจกลายเป็นเรื่องตลกขบขัน สลิ่มนกหวีดแม้จะอึ้งกับข้อมูลหลักฐานฝ่ายค้าน ก็ยังไม่วายเถียงแทน มีเงินซื้อตำแหน่งแล้วจะเป็นไรไป รัฐบาลไหนก็ทำกัน ฯลฯ นี่หรือคนชั้นกลางระดับบนคนมั่งมีที่แห่ออกมาต้านโกง ท้ายที่สุดก็ยอมรับว่าหนีไม่พ้น ขอแค่ประยุทธ์เป็นผู้นำ ขอแค่เอาชนะไอ้แม้วไอ้ทอนไอ้พวกเสื้อแดงไอ้พวกติ่งส้มม็อบราษฎร ฯลฯ ก็โหนอำนาจอย่างไม่คำนึง

ทำลายพลังประชาธิปไตย ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง แล้วก็จะไปเข้าวัดทำบุญ บริจาคสมทบทุนเพื่อส่วนรวม นั่นคือสลิ่ม

อุดมการณ์หรือการเสียสละของ กปปส.ต่อให้บางคนเชื่อว่าจริง เอาเข้าจริงจึงไร้ค่า ไม่ได้นำพาสังคมไปสู่อุดมการณ์ที่เพ้อฝัน มีแต่ถอยหลัง ซ้ำยังชวนหัวร่อเย้ยหยัน เมื่อเอามาอ้างตอนศาลตัดสินจำคุก ขัดขวางเลือกตั้งจนเกิดรัฐประหาร มีโทษจำคุก แต่รัฐประหารลอยนวล เพราะนิรโทษกรรมตัวเองแล้ว ซ้ำยังสืบทอดอำนาจอย่างสุขสำราญ ถีบนั่งร้าน กปปส.ทิ้ง (แม้ยังมี อ.เอนกนั่งหัวโด่ไว้ส่งยานอวกาศ)

มวลชน กปปส.ไม่ได้อะไรเลย นอกจากบรรลุความเกลียดชัง ไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ไม่บรรลุผลทางอุดมการณ์ที่อวดอ้างจะปฏิรูป นอกจากนำประเทศถอยหลังไปอยู่ใต้จารีตสุดโต่ง แม้แต่ที่มุ่งทำลายฝ่ายตรงข้าม ก็กลายเป็นเห็นลูกหลานตัวเองชูสามนิ้ว เสาศีลธรรมที่หวังยึดเหนี่ยวก็สวนทางตกต่ำ

แต่เอาเถอะ รู้กัน ที่พยายามอ้างอะไรต่างๆ ก็เพื่อให้รอดคุกเท่านั้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน