FootNote:บทสนทนาลับทำเนียบรัฐบาล กับบทบาท ประยุทธ์ จันทร์โอชา

การเดินทางเข้าทำเนียบรัฐบาลของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เพื่อเข้าพบและสนทนากับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเป็นการลับ เฉพาะมีความสำคัญในทางการเมือง

มิใช่เพราะว่า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารรุ่นเดียวกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เท่านั้น

หากที่สำคัญ 1 เพราะว่า พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคพลังประชารัฐตั้งแต่ยังเละเป็นวุ้น ตั้งแต่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ยังไม่ได้เข้าไปมีบทบาทโดยตรง

ไม่ว่าในฐานะที่เป็นประธานยุทธศาสตร์ของพรรค ไม่ว่าในฐานะที่เป็นหัวหน้าพรรค

ขณะเดียวกัน อีกประการ 1 ซึ่งสำคัญเป็นอย่างสูงก็คือ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงในห้วงแห่งการเลือกตั้งเดือนมีนาคม 2562 และนำส.ส.เข้ามาทั้งสิ้น 13 คน

และคาดว่าจะนำมาอีก 1 คนในการเลือกตั้ง”ซ่อม”

หากผลการเลือกตั้งซ่อมในวันที่ 7 มีนาคมชัยชนะเป็นของพรรคพลังประชารัฐตรงนี้จะเป็น”ตัวแปร”อย่างสำคัญ

คำว่า”ตัวแปร”ในทางการเมืองนี้มิได้มีผลเพียงทำให้ ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ลดจาก 52 เหลือเพียง 51 อย่างเดียว หากแต่ยังทำให้จำนวนของพรรคพลังประชารัฐเพิ่มขึ้น

เพิ่มขึ้นจากที่มีอยู่ 121 เป็น 122 และทำให้ ส.ส.พรรคพลังประชารัฐในภาคใต้เพิ่มขึ้นเป็น 14

อย่าคิดว่า “จำนวน”ไม่มีความสำคัญในทางการเมือง

ความจริง ส.ส.ที่เรียกตนเองว่า”ขุนพลภาคใต้”เคยปรารภตั้งแต่มีการจัดตั้งครม.เมื่อเดือนกรกฎาคม 2562 แล้วว่า ภาคใต้ซึ่งมีส.ส.ถึง 13 คนควรจะได้รัฐมนตรี 1 ตำแหน่ง

เพราะพรรครวมพลังประชาชาติไทยมี 5 คนยังได้ 1 ตำแหน่ง พรรคชาติพัฒนามี 4 คนยังได้ 1 ตำแหน่ง แล้วเหตุใดภาคใต้ของพรรคพลังประชารัฐมีถึง 10 กว่าคนจึงไม่ได้เลย

การเข้าพบ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล จึงก่อให้เกิดคำถามนี้ขึ้นมาอีกครั้ง

สถานะของ พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล เป็นสถานะที่ไม่ธรรมดา เพราะไม่เพียงแต่จะเป็นผู้รับผิดชอบ ส.ส.ภาคใต้ที่ต่อสู้โดยตรงกับพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น

หากอยู่ในฐานะเป็นเพื่อนนักเรียนเตรียมทหารกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีอีกด้วย

นี่คือปัจจัยอันจะกลายเป็น”ตัวแปร”ในการปรับครม.

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน