FootNote : ความพ่ายแพ้ของประชาธิปัตย์ โจทย์ใหญ่สำคัญทางการเมือง

ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ในการเลือกตั้ง”ซ่อม”ที่นครศรีธรรมราช

ก็อีหรอบเดียวกับความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทยในการเลือกตั้งซ่อม ไม่ว่าที่ขอนแก่น ไม่ว่าที่กำแพงเพชร

นั่นก็คือ เป็นความพ่ายแพ้ต่อ”อำนาจรัฐ” เป็นความพ่ายแพ้ต่อพรรคพลังประชารัฐอันเป็นพรรคหลักพรรคแกนนำของ”รัฐบาล”

ความพ่ายแพ้ของพรรคเพื่อไทย ไม่ว่าที่ขอนแก่น ไม่ว่าที่กำแพงเพชร อาจอ้างได้ว่าเป็นความพ่ายแพ้ในฐานะพรรคฝ่ายค้านอันอยู่นอกกลไกอำนาจรัฐอย่างสิ้นเชิง

แต่ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ที่นครศรีธรรมราชมีความสลับซับซ้อนมากกว่า เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เป็นส่วนหนึ่งอยู่ภายในกลไกแห่งอำนาจ

เพียงแต่จุดต่างอย่างสำคัญอยู่ตรงที่ระหว่างพรรคพลังประชารัฐกับพรรคประชาธิปัตย์ สถานะการอยู่ “วงใน” ของพรรคพลังประชารัฐมีความเหนือกว่าพรรคประชาธิปัตย์

ทั้งยังเป็น”วงใน”อย่างไม่ธรรมดาและปรกติ เพราะว่าเป็นพรรคอันมีเป้าหมายเพื่อสืบทอดอำนาจของ”คสช.”

บทเรียนที่พรรคการเมืองจักต้องตระหนักร่วมกันเมื่อเข้าสู่กระบวนการในการเลือกตั้งไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งซ่อม ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไป

นั่นก็คือ สถานะของพรรคพลังประชารัฐจะยังดำรงความเป็นพรรคอันแนบแน่นอยู่กับกลไกแห่งอำนาจรัฐต่อไป

ขณะที่พรรคการเมืองอื่นไม่ว่าจะเคยร่วมอยู่ในรัฐบาลอย่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะเป็นฝ่ายค้าน ก็คือจะต้องเป็นพรรคนอกวงเมื่อเทียบกับพรรคพลังประชารัฐ

แม้จะอิ่มใจกับสถานะอันเคยเป็น”รัฐมนตรี” แต่ก็มิได้เป็นรัฐมนตรีอันเป็นเนื้อเดียวกับนายกรัฐมนตรีหรือรองนายกรัฐมนตรีบางคนที่เริ่มต้นมาจากรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557

เว้นแต่จะสมาทานตนเป็นเสมือนลูกแหล่งตีนมืออย่างซื่อสัตย์

นี่คือโจทย์ทางการเมืองอันแหลมคมยิ่งที่จะต้องประสบทันทีที่มีการยุบสภา และกำหนดการเลือกตั้งอย่างเป็นการทั่วไป

ไม่มีใครตอบได้ว่าภายในพรรคประชาธิปัตย์จะตระหนัก และนำเอาบทเรียนจากความพ่ายแพ้ของตนมาสรุปและกำหนดยุทธศาสตร์ในทางการเมืองอย่างไร

แต่ความพ่ายแพ้ของพรรคประชาธิปัตย์ที่นครศรีธรรมราชจะได้รับการยึดถือเป็น”โจทย์”ใหญ่ โจทย์สำคัญหนึ่งในทางการเมือง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน