FootNote:ฤดูกาลแสนสั้นทางการเมือง รัฐบาล ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหตุปัจจัยอะไรทำให้พรรคก้าวไกลมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่า จะมีการยุบสภาก่อนครบเทอมในเดือนมีนาคม 2566
เชื่อมั่นถึงกับให้เลขาธิการพรรคออกมาเน้นและย้ำถึง 2 ครั้ง
เป็น 2 ครั้งที่ นายชัยธวัช ตุลาธน ได้แสดงบทบาทนี้คล้ายกับมีความเชื่อมั่นเป็นอย่างสูงว่า ในที่สุด พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย จักต้องแสดงบทบาทอันเป็นตัวของตัวเอง
บางคนอาจจะมองไปยังสถานการณ์การแพร่ระบาดรอบที่ 3 ของไวรัส โควิด-19 ซึ่งในที่สุดก็ชี้ให้เห็นว่าความสามารถของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มีมากน้อยเพียงใด
บางคนอาจจะมองไปยังสถานการณ์การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญที่มีความเด่นชัดมากยิ่งขึ้นเป็นลำดับว่า พรรคพลังประชารัฐไม่ได้ให้เกียรติกับพรรคร่วมรัฐบาลเท่าที่ควร
ที่รุนแรงและแหลมคมเป็นอย่างมากก็คือ ได้มองข้าม”เงื่อนไข”ที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เคยเสนอตั้งแต่เมื่อเดือนมิถุนายน 2562
ในที่สุด พรรคพลังประชารัฐมั่นใจในแรงสนับสนุนจาก 250 ส.ว.ก็เดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญไปตาม”ธง”ที่ตนต้องการโดยไม่ได้สนใจต่อ”เงื่อนไข”ที่พรรคประชาธิปัตย์ยืนยัน
ต้องยอมรับว่าปมอันเนื่องแต่การแพร่ระบาดของไวรัส โควิด-19 รอบที่ 3 เท่ากับเป็นการตอกย้ำอย่างเด่นชัดว่า ประสิทธิภาพในการบริหารจัดการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นอย่างไร
ทุกสายตาเฝ้ามองบทบาทของรัฐบาลภายหลังเทศกาลสงกรานต์ว่าจะมี”มาตรการ”ใดออกมารับมืออย่างเป็น”รูปธรรม”
ทั้งมาตรการ”สาธารณสุข” ทั้งมาตรการ “เศรษฐกิจ”
อย่าลืมเป็นอันขาดว่ารัฐบาลได้ผ่าน 2 ปีมาแล้วตั้งแต่เมื่อเดือนมีนาคม 2564 เวลาที่เหลืออีก 1 ปีจึงทรงความหมายสูงยิ่งในทางการเมืองเพราะเมื่อผ่าน 2565 ไปก็จะเข้าสู่ 2566
ทุกพรรคการเมืองที่เคยร่วมอยู่กับรัฐบาลจำเป็นต้องประเมินและตัดสินใจว่าจะดำเนินการอย่างไรเพื่อรับมือกับ”การเลือกตั้ง”
การคาดหมายของพรรคก้าวไกลจึงอยู่บนพื้นฐาน 1 ปีของรัฐบาลและการอยู่ร่วมรัฐบาลว่าจะส่งผลต่อ”อนาคต”แบบไหน
ไม่ว่าพรรคพลังประชารัฐ ไม่ว่าพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าพรรคชาติไทยพัฒนา ล้วนผ่านประสบการณ์ทางการเมืองมาแล้วอย่างคร่ำหวอด
เวลาหลังสงกรานต์เรื่อยไปจนถึงสิ้นปี 2564 จึงเป็นเวลาแห่งการวัดและตัดสินใจทางการเมืองอันมากด้วยความแหลมคม
เนื่องจากการเลือกตั้งจักต้องมาอย่างแน่นอนในปี 2566