คอลัมน์ บทบรรณาธิการ

ร.พ.สนาม – สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ตอนนี้มาถึงจุดที่ต้องขยายโรงพยาบาลสนามมากขึ้น

หลังจากมีภาพคนไข้นอนรักษาอยู่เต็มโรงพยาบาลในหลายพื้นที่และภูมิภาค

ขณะเดียวกัน กรมควบคุมโรคยืนยันว่าผู้ป่วยหรือผู้ที่รู้ตัวว่าติดเชื้อต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล ผู้ป่วยต้องไม่นอนรักษาตัวอยู่ที่บ้านเหมือนที่ต่างประเทศ

แพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ถึงแม้ผู้ติดเชื้อบางรายไม่มีอาการ แต่ต้องมีแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขดูแลใกล้ชิด

เพราะมีกรณีที่เชื้อเข้าปอดแล้วจะลุกลามรุนแรงขยายตัวได้รวดเร็ว นอกจากนี้ ยังเพิ่มความเสี่ยงให้คนอื่นๆ ในบ้านติดเชื้อได้

คำอธิบายของแพทย์ดังกล่าวมีเนื้อหาชัดเจน และสะท้อนเจตนาที่ดี ดังนั้นเจ้าหน้าที่รัฐต้องทำความเข้าใจกับประชาชนให้ชัดเจนโดยควรใช้ท่าทีที่ดีด้วย

ขณะนี้ต้องเข้าสภาพการณ์ที่ประชาชนมีความวิตกกังวล หวาดกลัว และรู้สึกไม่มั่นคง ฉะนั้นการสื่อสารจึงอาจมีอารมณ์มากกว่าเหตุผลในบางกรณี

ยิ่งเมื่อบางคนเห็นภาพโรงพยาบาลหนาแน่น เตียงเต็ม หรือพบเห็นกรณีผู้ป่วยรอการติดต่อจากเจ้าหน้าที่ให้เข้ารับการรักษาเป็นเวลานาน หรือบางกรณีต้องกราบกรานเพื่อให้ได้เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล อาจยิ่งทำให้เครียดมากขึ้น

ฉะนั้นรัฐบาลควรต้องพร้อมรับมือด้วยความเข้าใจ

มิใช่เพียงประกาศใช้กฎหมายต่างๆ ข่มขู่ดำเนินคดี เพื่อให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่คนทั่วไปและให้ง่ายต่อการควบคุม

ปัจจุบันทางการแถลงว่ามีโรงพยาบาลสนามและฮอสพิเทลทั่วประเทศ 25,000 เตียง ดำเนินการตามคำแนะนำของกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ สธ. เพื่อให้ความปลอดภัย ทั้งระบบตัวอาคาร ระบบจัดการน้ำเสีย การจัดการอากาศ ฯลฯ

ความจำเป็นที่ต้องใช้โรงพยาบาลสนามคือการควบคุมเชื้อในพื้นที่วิธีหนึ่ง ซึ่งเหมาะกับใช้กับผู้ติดเชื้อหรือผู้ป่วยที่มีอาการไม่มาก

อย่างไรก็ตาม ระยะเวลาของการอยู่ในโรงพยาบาลสนามต้องใช้เวลานานและอยู่รวมกับคนหมู่มาก จึงอาจมีกรณีที่คนไม่อยากถูกส่งตัวไป อยากรับการรักษาที่โรงพยาบาลจริงมากกว่า

ตรงนี้เป็นอีกจุดที่เจ้าหน้าที่รัฐต้องระวังว่าจะอาจเกิดความเหลื่อมล้ำทางสังคม

 

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน