FootNote : บทบาท รัฐสภา เพื่อตรวจสอบ การบริหาร จัดการไวรัส โควิด

จังหวะก้าวของพรรคเพื่อไทยเมื่อประสานเข้ากับจังหวะก้าวของพรรคก้าวไกล ในความพยายามผลักดันให้ “รัฐสภา” ได้แสดงบทบาทต่อการแพร่ระบาดของไวรัสโควิดมากด้วยความแหลมคม
ต้องยอมรับว่า นับแต่เกิดสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิดในปลายปี 2562 เป็นต้นมา รัฐสภามีบทบาทในการตั้งรับ
เนื่องจากบทบาทนำเป็นบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผ่านโครงสร้างของ “ศบค.” ซึ่งเป็นไปตามพระราชกำหนดการบริหารราชการแผ่นดินในสถานการณ์ฉุกเฉิน
บทบาทนี้ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รวบอำนาจมาอยู่ในมืออย่างเบ็ดเสร็จ โดยต่อสายไปยัง “ปลัดกระทรวง” โดยไม่จำเป็นต้องผ่าน “รัฐมนตรี”
ไม่ว่ารองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีที่มาจากพรรคการเมือง ไม่ว่าจะจากพรรคภูมิใจไทย ไม่ว่าจะจากพรรคประชาธิปัตย์ จึงมีบทบาทรองเมื่อเทียบกับบทบาทของข้าราชการประจำ
สภาพความเป็นจริงนับแต่เดือนเมษายน 2562 เป็นต้นมาจึงเป็นสภาพความเป็นจริงที่บทบาทของรัฐสภาเสมอเป็นเพียงการนั่งมองในฐานะ “ผู้สังเกตการณ์”

หากมองรัฐสภาโดยองค์รวมก็จะมองเห็นได้ว่าเมื่อบทบาทของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นบทบาทหลัก เป็นพระเอก สามารถแสดงบทบาทในฐานะ “ผู้บริหาร” ได้อย่างเต็มเปี่ยม
คำถามต่อรัฐสภา ไม่ว่าจะมองผ่าน 250 ส.ว. ไม่ว่าจะมองผ่าน 500 ส.ส.ก็คือ ได้มีส่วนในการควบคุมและตรวจสอบอย่างไร
ในเมื่อความเป็นจริงเด่นชัดอย่างยิ่งไม่เพียงแต่อำนาจในการบริหารจัดการนับแต่เดือนเมษายน 2563 เป็นต้นมาอยู่ในความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างเต็มเปี่ยม
ขณะเดียวกัน การแพร่ระบาดไม่ว่ารอบ 1 จากสนามมวยและสถานบันเทิง ไม่ว่ารอบ 2 จากตลาดกุ้งและจากบ่อนการพนัน ไม่ว่ารอบ 3 จากสถานบันเทิงหรูเริดอลังการ ซอยทองหล่อ
ทั้งหมดเกิดขึ้นภายใต้การประกาศและบังคับใช้สถานการณ์ฉุก เฉิน เกิดขึ้นภายใต้ความรับผิดชอบของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

สภาพการณ์การแพร่ระบาดเป็นเช่นนี้ สภาพการณ์การบริหารจัดการเป็นเช่นนี้ จึงเกิดคำถามจากสังคมว่า รัฐสภาได้แสดงบทบาท มากน้อยเพียงใดในฐานะอันเป็นตัวแทนแห่งอำนาจนิติบัญญัติ
นั่นก็คือ บทบาทในการตรวจสอบ ประเมินผล และบทบาทในการควบคุมซึ่งผู้รับผิดชอบคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล จึงเหมาะสม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน