พม่า-ปัญหาที่ใหญ่เกิน – ทําเนียบรัฐบาลแจ้งว่านายกรัฐมนตรีจะ ไม่ไปร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย วันที่ 24 เม.ย.นี้
ครั้งนี้นับว่าตัดสินใจถูกต้อง หลังจากพลาดมาหลายครั้ง
เพราะเวทีดังกล่าว มีรายงานเบื้องต้นว่า พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้นำกองทัพและผู้นำคณะรัฐประหารจะเดินทางไปร่วม โดยเป็นทริปเยือนต่างประเทศครั้งแรกนับจากวันที่ 1 ก.พ. ใช้กำลังยึดอำนาจจากรัฐบาลพลเรือน ล้มผลการเลือกตั้ง และสั่งการปราบปรามผู้ชุมนุมประท้วงอย่างรุนแรง มีผู้เสียชีวิตแล้วราว 700 ราย
หากผู้นำไทยเดินทางไปด้วย ไม่เพียง สุ่มเสี่ยงไปรับรองความไม่ชอบธรรม ยังอาจถูกเปรียบเทียบเส้นทางจากทหารเข้าสู่การเมืองที่ทำลายประชาธิปไตยด้วย
สถานการณ์เมียนมาขณะนี้นับว่าบานปลายและเข้าสู่วิกฤตที่แก้ไขได้ยากยิ่ง
แม้ว่ากลุ่มประเทศอาเซียนเริ่มขยับให้มีการประชุม แต่ไม่มีอำนาจเสนอแนะทางออกใดๆ ได้ ด้วยหลักการไม่แทรกแซงกิจการภายในซึ่งกันและกัน
อีกทั้งเมื่อกองทัพใช้อาวุธและกำลัง ปราบปรามพลเรือนแล้ว ความชอบธรรมที่จะอยู่ต่อให้เป็นที่ยอมรับหรือยอมประนีประนอม จึงไม่มีเหลือ
ความซับซ้อนที่เพิ่มขึ้นอีกคือการจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพโดยกลุ่มการเมืองฝ่ายประชาธิปไตย เมียนมา ซึ่งเรียกร้องให้อาเซียนเชิญตัวแทนเข้าประชุมด้วย
ส่วนชายแดนเกิดการสู้รบระหว่างกองทัพกับกองกำลังชาติพันธุ์ที่มีผู้อพยพหนีตาย มาฝั่งไทยเป็นระยะ
ปัญหาของเมียนมาขณะนี้ยกระดับเป็นปัญหาระหว่างประเทศ มีตัวแทนจากสหประชาชาติที่เดินทางมาไทยแต่ยังเข้าเมียนมาไม่ได้
ขณะที่ชาติมหาอำนาจตะวันตก ทั้งสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรปใช้มาตรการลงโทษเศรษฐกิจต่อคณะรัฐประหารเมียนมาแล้ว
ส่วนญี่ปุ่นต้องออกโรงด้วย หลังจากนักข่าวญี่ปุ่นถูกเจ้าหน้าที่เมียนมาจับกุมขณะปฏิบัติหน้าที่รายงานข่าว
เช่นเดียวกับออสเตรเลีย ที่มีพลเมืองถูกจับกุมด้วยข้อหาทางการเมือง
แนวปะทะครั้งนี้ใหญ่เกินกว่าอาเซียนหรือชาติเพื่อนบ้านจะรับมือได้
