FootNote : ประเทศไทย ใต้สถานการณ์ โควิด การย้อนกลับสู่ 25 มีนาคม 2563
ปัญหา “วัคซีน” ยังเป็นปัญหาหนัก เป็นปัญหาสำคัญที่ทุกสายตาจ้องมองไปยังรัฐบาล จ้องมองไปยังกระบวนการบริหารจัดการโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
ความละเอียดอ่อนเป็นอย่างสูง คือ ยังมีความไม่แน่นอนดำรงอยู่อย่างไม่เปลี่ยนแปลง
ไม่เพียงแต่เป็นความไม่แน่นอนที่ว่าจำนวน 65 ล้านโดสที่มอบให้กับแอสตร้าเซเนก้า ประสานเข้ากับชิโนแว็ค จะเกิดได้ในความเป็นจริงอย่างไรเท่านั้น
หากแต่ที่คาดหมายว่าจะเปิดประตูกว้างให้กับ สปุทนิค วี จากรัสเซีย และไฟเซอร์จากสหรัฐ จะมีความคืบหน้าไปได้ตามที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขแถลงหรือไม่
เพราะหากตรวจสอบจากการติดต่อกับไฟเซอร์ก่อนหน้านี้ก็สัมผัสได้ในปัญหาที่ทิ้งร่องรอยเอาไว้ตั้งแต่ปี 2563 มาแล้ว
ยิ่งกว่านั้นเมื่อมองผ่านโครงการ “วัคซีนทางเลือก” ก็มีความไม่แน่นอนเป็นอย่างสูง
ความไม่แน่นอนนี้เกิดขึ้นภายหลังการประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐและภาคเอกชนที่ในที่สุดรัฐบาลแถลงว่าจะรับผิดชอบในการ จัดหาวัคซีนจำนวน 100 ล้านโดสเอง
บทบาทของภาคเอกชนไม่ว่าจะเป็นหอการค้า สมาคมธนาคาร สภาอุตสาหกรรม สมาคมโรงพยาบาลเอกชนเป็นเพียงหน่วยหนุน
คำว่า “หน่วยหนุน” ในที่นี้ก็คือ รัฐบาลไม่ได้เปิดทางให้ภาคเอกชนเข้าร่วมในการจัดหาวัคซีน หากแต่ให้เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในการกระจายการฉีดวัคซีนมากกว่า
เด่นชัดว่า ตราบใดที่การจัดหาวัคซีนยังเป็นความรับผิดชอบของรัฐบาล เสียงเอะอะโวยวายจากภาคเอกชนที่ดังอึกทึกครึกโครม ตลอดเดือนเมษายนก็กลายเป็นเรื่องสูญเปล่า
ในที่สุด วิธีบริหารจัดการในเรื่อง “วัคซีน” ก็มิได้เปลี่ยนแปลง ยังตั้งเป้าอยู่ที่โครงการเดิมอันเคยถูกวิพากษ์ว่า “แทงม้าตัวเดียว” นั่นเอง
ทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นนักการเมืองฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นภาคเอกชนที่เคยออกมาแสดงความเห็นในเรื่อง “วัคซีน” จึงล้วนคืนกลับสู่ที่ตั้งบนพื้นฐานความคิดในลักษณะรอคอย
รอคอยให้กับอำนาจเบ็ดเสร็จในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ว่าจะนำพาประเทศเข้าเผชิญกับสถานการณ์โควิดอย่างไร