FootNote:พลัง “ไทยไม่ทน” เดินหน้า กดดัน ภูมิใจไทย ประชาธิปัตย์ ตัดสินใจ
ถามว่าทำไม”ไทยไม่ทน สามัคคีประชาชน เพื่อประเทศไทย” จึงพุ่งเป้าไปยัง 1 พรรคประชาธิปัตย์ และ 1 พรรคภูมิใจไทย
น้ำหนักอาจอยู่ที่ 2 พรรค แต่แท้จริงคือ “สังคม”
เพราะว่าข้อเรียกร้องของ “ไทยไม่ทน” คือ ความต้องการให้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ ถอนตัวออกจากการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
เหมือนกับการเคลื่อนไหวในเบื้องต้น “ไทยไม่ทน” ไม่เพียงแต่จะเดินทางไปหาหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปหาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นพรรคร่วมรัฐบาลที่สำคัญ
หากแต่ในขบวนเดียวกันนี้ยังมีการไปยื่นหนังสือที่ทำเนียบรัฐบาลให้กับนายกรัฐมนตรี ประสานกับการไปยื่นหนังสือที่กองบัญชาการกองทัพให้กับผู้บัญชาการทหารบก
ในที่สุดแล้วก็ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออก
เพราะรากฐานสำคัญในการเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่พรรคการ เมืองและจาก ส.ว.ที่มีผบ.เหล่าทัพเป็นองค์ประกอบสำคัญ
แม้จะมีความเป็นไปได้ “น้อยมาก” แต่ “ไทยไม่ทน” ก็เคลื่อน
เหมือนกับการเคลื่อนของ “ไทยไม่ทน” อาศัยความสัมพันธ์อันเปราะ บางระหว่างพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา มาเป็นเครื่องมือ
กระนั้น “ไทยไม่ทน” ก็ตระหนักในบทบาทและความหมายของ 250 ส.ว.และ ส.ส.จากพรรคพลังประชารัฐว่าสำคัญ
การขับเคลื่อนผ่านกระบวนการยื่นหนังสือครั้งนี้ โดยแท้จริงแล้วจึงเป็นการฟ้องต่อสังคม ฟ้องต่อประชาชนให้เห็นว่าเหตุปัจจัยอะไรทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังอยู่ในตำแหน่งนายกรัฐมนตรีได้
ทั้งๆที่ไม่ว่า 5 ปีแรกหลังรัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 และ 2 ปีหลังการเลือกตั้งเมื่อเดือนมีนาคม 2562 มีแต่ความล้มเหลว
เป้าหมายก็คือ ต้องการชี้ให้เห็น “ความล้มเหลว” นี้พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์จะต้อง “ร่วม” รับผิดชอบด้วย
สิ่งที่พรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์ หวาดกลัวมากที่สุดมิใช่อำนาจอันมีอย่างหนักแน่นและจริงจัง ในมือของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หากแต่เป็นอำนาจของ “ประชาชน”
“เสียง” ของประชาชนในขอบเขตทั่วประเทศต่างหาก คือผู้ที่จะตัดสินอนาคตของพรรคภูมิใจไทย พรรคประชาธิปัตย์
และตัดสินอนาคต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
