FootNote : เป้าหมาย สูงสุด พลังประชารัฐ ผ่าน “ธรรมนัส” กำราบ “เพื่อไทย”

สัญญาณอันส่งมาจากภายในพรรคพลังประชารัฐ ยิ่งวันยิ่งแสดงออกอย่างเด่นชัดว่า แนวโน้มและความเป็นไปได้ของการเลือก ตั้งจะเกิดขึ้นสูงเป็นอย่างสูงยิ่งในทางการเมือง
แม้ทั้ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ทั้ง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ จะยืนยันระยะการดำรงอยู่จนครบเทอมก็ตาม
สัญญาณแรกสุดสัมผัสได้จากการเปลี่ยนแปลงคณะกรรมการ บริหารภายในพรรคพลังประชารัฐ นั่นก็คือ การผลักดัน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้าไปแทนที่ นายอนุชา นาคาศัย
รูปธรรมนี้ไม่เพียงแต่จะเป็นการปรับโครงสร้างตัวบุคคลเพื่อยืน ยันถึงการทำงานร่วมระหว่างหัวหน้าพรรคและเลขาธิการพรรคอย่างเป็นจริงเท่านั้น หากแต่เป็นการให้คุณค่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า
พลันที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เข้ามาก็เริ่มรุกเข้าไปด้วยการจัดกระบวนของคณะกรรมการฝ่ายเศรษฐกิจของพรรค
อาจเป็นการตระเตรียมรับมือกับการรุกคืบจาก “พรรคเพื่อไทย”
ขณะเดียวกัน ก็เสริมฝ่ายเศรษฐกิจอันถือเป็นจุดอ่อนเมื่อเทียบกับพรรคเพื่อไทยหากเข้าสู่กระบวนการของการเลือกตั้ง

ถามว่าจุดแข็งที่จะเติมเต็มเข้ามาในยุคของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นั้นคืออะไร คำตอบแรกก็คือ จุดแข็งในฐานะที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำของรัฐบาล
ไม่ว่ามองผ่าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ว่ามองผ่าน พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ นี่คือผู้กุมอำนาจอย่างต่อเนื่องและยาวนาน
คล้ายกับจะยึดกุมได้นับแต่รัฐประหารเมื่อเดือนพฤษภาคม 2557 ทั้งๆที่ในความเป็นจริงก็มีบทบาทเป็นอย่างสูงต่อรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน 2549 มาแล้ว
บทบาทในการกำราบ “คนเสื้อแดง” ก็เด่นชัดในยุครัฐบาล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผ่านองค์กรศอฉ.
และเป็นดั่ง “กระดานหก” ให้ทะยานอยู่ในอำนาจจน ณ วันนี้

หน้าที่ของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ในฐานะเลขาธิการพรรคก็คือจะ ขยายและใช้อำนาจที่มีอย่างไรให้เป็นประโยชน์ทางการเมือง
จะใช้กลไกในแบบ “พรรคไทยรักไทย” อย่างไรให้เป็น “คุณ”
คำว่าเป็นคุณในที่นี้มิได้หมายถึงเอาชนะพรรคภูมิใจไทย พรรค ประชาธิปัตย์ หากแต่อยู่ที่จะต้องชนะพรรคเพื่อไทยต่างหากจึงจะเป็นความสำเร็จสูงสุด
หากไม่กำชัยเหนือพรรคเพื่อไทยปัญหาก็ย่อมจะเกิดขึ้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน