คอลัมน์ ใบตองแห้ง

ไม่เอาประยุทธ์แล้วจะเอาใคร จะเปลี่ยนนายกฯ ด้วยวิธีไหน ไล่ตู่กันจัง ถ้าตู่ลาออกจริงๆ จะทำอย่างไร จะเลือกนายกฯ ใหม่ตามบัญชีพรรคการเมือง หรือเอานายกฯ คนนอก ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ในวิกฤตโควิด ก็เป็นไปไม่ได้ รัฐธรรมนูญก็ยังไม่แก้ ฯลฯ

เป็นคำถามที่ทำให้ไขว้เขว มองไม่เห็นอนาคต เห็นแต่ความมืดมน กลไกรัฐธรรมนูญ 2560 ค้ำประยุทธ์สืบทอดอำนาจ เปลี่ยนนายกฯ ยากเย็น ถ้าเป็นรัฐบาลปกติ ตกเก้าอี้ไปนานแล้ว

อย่ากระนั้นเลย ให้ประยุทธ์อยู่ก่อนดีกว่า “อย่าเปลี่ยนม้ากลางศึก” รอให้แพ้ศึกก่อนค่อยเปลี่ยนม้า? ประเทศชาติประชาชนจะพินาศล้มตายอีกมากมายเท่าไหร่

งั้นประชาชนควรทำอย่างไร ก็ไล่ประยุทธ์ต่อไปสิครับ รวมพลังให้มากที่สุด ทำทุกวิถีทางที่จะทำได้ ใครสะดวกไปม็อบก็ไป ใครทำอย่างอื่นได้ก็ทำ

ไม่ต้องสนใจว่าจะเปลี่ยนประยุทธ์วิธีไหน อย่าโยนคำถามให้ประชาชน เพราะประชาชนไม่มีอำนาจ ประชาชนทำได้แค่กดดัน เครือข่ายอำนาจที่หนุนหลัง จะตัดสินใจอย่างไรก็ทำไป แล้วประชาชนจะบอกเองว่าพอใจหรือไม่ แก้วิกฤติได้หรือไม่

โดยวิถีประชาธิปไตย แน่ละ เราเรียกร้องให้แก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ตัดอำนาจ 250 ส.ว. แก้ระบบเลือกตั้ง รื้ออำนาจองค์กรอิสระ ฯลฯ แต่ใครก็รู้ว่าไม่ทันวิกฤต ผนง.จะพาตายหมด

ดังนั้น จะเปลี่ยนประยุทธ์วิธีไหน ก็ทำไปเถอะ จะเอาผู้ว่าฯ ลำปางเป็นนายกฯ คนนอก แบบสนธิ ลิ้ม จะตั้งรัฐบาลเฉพาะกาล แบบหมอประเวศ ก็เป็นเรื่องของเครือข่ายอำนาจ ประชาชนไม่มีอำนาจตัดสินใจ แค่ดูว่าแก้วิกฤตได้ไหม ถ้าแก้ไม่ได้ ก็ไล่อีก กำปั้นทุบดิน ง่ายๆ แค่นั้นเอง

เอาใครก็ได้ พูดอย่างนี้ไม่ใช่มักง่าย แต่ในเมื่อประชาชน แก้รัฐธรรมนูญไม่ได้ ตัดอำนาจ 250 ส.ว.ไม่ได้ เลือกรัฐบาลไม่ได้ เครือข่ายอำนาจคุมไว้หมด แล้วได้รัฐบาลล้มเหลว ประชาชนหมดความไว้วางใจ ถ้าพวกคุณไม่เปลี่ยน ก็จะเสื่อมจะพังไปด้วยกันทั้งหมด

เอาใครก็ได้ ไม่ใช่ไม่ยอมรับวิถีทางที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่ถ้ายังอยากดันทุรังไปในวิถีนายกฯ คนนอก รัฐบาลเฉพาะกาล ก็เอาที่สบายใจ จะได้พิสูจน์กันต่อไปว่าล้มเหลวอีกตามเคย

เพราะที่ล้มเหลวอยู่ทุกวันนี้ไม่ใช่แค่ประยุทธ์ แต่รวมทั้งรัฐราชการ ซึ่งกำลังพังเป็นกระบิ ตั้งแต่ฝ่ายความมั่นคงไปถึงเทคโนแครตผู้เชี่ยวชาญ

หมอยงส่งตัวแทนไปแจ้งจับเด็กวิศวะจบใหม่แก้ไขสรรพคุณในวิกิพีเดีย ถามว่าช่วยให้เครดิตดีขึ้นไหม

คณบดีแพทยศาสตร์ กรรมการวิชาการ ช่วยกันสนับสนุนสูตรวัคซีนค็อกเทล SV+AZ ซึ่งใช่เลย ยังไงก็ดีกว่า SV+SV หรือ AZ เข็มเดียว แต่ความเชื่อถือต่อผู้เชี่ยวชาญล้มละลายไปแล้วในสายตาประชาชน จากความพยายามตีโป่งประสิทธิภาพ SV เกินจริงในช่วงก่อน “3 เข็มน้องๆ ไฟเซอร์” พอความจริงออกมาว่าหมอพยาบาลฉีด 2 เข็มยังติด ยังตาย ประชาชนก็ปฏิเสธไม่ยอมฉีด พอคิดสูตรใหม่ก็ถูกมองว่าพยายามระบายวัคซีนจีนที่ ครม.เพิ่งสั่งซื้อ 10.9 ล้านโดส 6.1 พันล้านบาท ไม่มีใครยอมรับวัคซีนอีก

ขณะที่ AZ ก็ไม่มาตามคาด 61 ล้านโดสกลายเป็นส่งมอบเดือนละ 5 ล้านโดสจนถึงพฤษภา 65 จนต้องขู่ร่างประกาศควบคุมการส่งออก (ซึ่งก็จะถูกเพื่อนบ้านด่าอีก)

สถานการณ์วันนี้คือ เรามีคนติดเชื้อวันละหมื่น คนตายเฉียดร้อย คนนอนรอความตายอีกมาก แต่ไม่มีวัคซีนให้พึ่ง ไม่เป็นอย่างที่อนุทินพูดไว้ “วัคซีนเต็มโรงพยาบาล เต็มแขนประชาชน ล้นจนไม่มีที่เก็บ”

พังไปหมดทั้งรัฐบาลและพรรคร่วม พังจนไม่กล้าถอนตัว พายเรือก็ตายหมู่ โดดเรือก็ตายเดี่ยว

นักการเมืองพรรคร่วมรัฐบาลให้สัมภาษณ์บีบีซีไทยยอมรับว่า รัฐบาลมาถึงจุดต่ำสุด ประชาชนโกรธเกลียดเดือดดาลยิ่งกว่า ยุคน้ำท่วมใหญ่หรือนิรโทษสุดซอยสมัยยิ่งลักษณ์ แต่ทำอะไรไม่ได้ เพราะยังไม่มี “สัญญาณใหม่”

ไม่รู้เหมือนกันว่าใครให้สัญญาณ แต่ยิ่งช้าไปยิ่งตกต่ำ ยิ่งเสื่อมทั้งยวง อย่าคิดว่ารอให้ตกต่ำกว่านี้ค่อยเปลี่ยนประยุทธ์ แล้วเครือข่ายอำนาจจะเป็นพระเอก

ความเสื่อมเกิดทุกองคาพยพ เช่นกองทัพแจ้งจับคนโพสต์ว่าทหารไปฝึกโดดร่มใช้เงินภาษีประชาชนไปฉีดไฟเซอร์ อันที่จริง กองทัพควรถามตัวเองว่าทำไมคนเข้าใจผิด ก็เพราะประชาชนรู้สึกว่ากองทัพมีอภิสิทธิ์ ขอวัคซีนไปฉีดทหารเกณฑ์ มีหน่วยแพทย์ของตัวเองไปตรวจโควิดให้กำลังพลและครอบครัว ขณะที่ประชาชนต้องเข้าคิวข้ามคืน ซ้ำยังใช้งบซื้ออาวุธไม่อั้น ทั้งที่ประเทศกำลังวิกฤต

หนักที่สุด คือทำรัฐประหารหนุนประยุทธ์ 7 ปี ไม่รับผิดชอบอะไรเลยแถมมีอภิสิทธิ์ ภาพลักษณ์กองทัพจึงแก้ไม่ได้ด้วยการไล่ฟ้องคน

ไม่ต่างอะไรกับการที่ตำรวจ อัยการ ขยันขันแข็งไล่ตั้งข้อหาสั่งฟ้องแกนนำม็อบและประชาชน ด้วย 112, 116 มันไม่ได้ทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ แต่ทำให้องค์กรกฎหมายล้มละลายทางความเชื่อถือไปพร้อมกับรัฐบาล

ไม่เปลี่ยนประยุทธ์ก็ได้นะ อยู่ไปอย่างนี้แหละ ประเทศพังอย่างไรประยุทธ์ก็ยังอยู่ แล้วคิดหรือว่าอำนาจต่างๆ จะไม่พังไปด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน