FootNote กระแสจาก “หมอไม่ทน” ขึ้นรองรับ กับความชอบธรรม “ดารา นักร้อง”
ไม่ว่าจะเป็นการออกโรงโดยกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ไม่ว่าจะเป็นการขานรับโดยกองบัญชาการตำรวจนครบาล ในกรณีอันเกี่ยวกับบทบาท “คอล เอ๊าต์” ของดาราและนักร้อง
ชะตากรรมในบั้นปลายจะไม่แตกต่างไปจากสภาพที่ นายสนธิญา สวัสดี กำลังถูก “ลอยแพ” จากพรรคพลังประชารัฐ
ไม่ว่าจะมองผ่านการตัดสินใจระดับเลขาธิการพรรคอย่าง ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ไม่ว่าจะมองผ่านการตัดสินใจระดับ ส.ส.อย่าง นายสิระ เจนจาคะ ก็ตาม
ตัวอย่างของการ “ลอยแพ” ทางการเมืองเช่นนี้มิได้มีแต่กรณีของ นายสนธิญา สวัสดี เท่านั้น ตรงกันข้าม ก่อนหน้านี้ก็เคยมีตัวอย่างมาแล้วในกรณีของ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์
เหตุผลมิใช่เพราะ น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ หรือ นายสนธิญา สวัสดี รับใช้ได้อย่างไม่เต็มพิกัดและความต้องการ หากแต่เพราะ
บทบาทของคนเหล่านี้ “สวนทาง” กับอารมณ์ในทางสังคม
สังคมไม่รู้สึกว่าบทบาทของดาราและนักร้องเป็นความผิด
ตรงกันข้าม การแสดงออกของดาราและนักร้องกลับสอดรับกับความรู้สึก “ร่วม” ของสังคมและประชาชนมากกว่า
ถามว่าความรู้สึกของประชาชนต่อวัคซีนบางยี่ห้อเกิดขึ้นอย่างไร้รากฐานและสภาพความเป็นจริงรองรับอย่างเพียงพอ หรือเพราะถูกปั่นจากกระแสในทางสังคมกระนั้นหรือ
คำตอบที่ตรงไปตรงมาอย่างที่สุดก็เพราะว่าประชาชนคือเหยื่อ และผลสะเทือนอย่างแท้จริง
ประชาชนเป็น “ด่านหน้า” ในการตกอยู่ในฐานะ “หนูทดลอง”ยา
แต่ความเป็นจริงที่มากด้วยน้ำหนักกลับเป็นเสียงสะท้อนอันมาจากแพทย์และพยาบาลซึ่งถือว่าเป็น “ด่านหน้า” อย่างแท้จริง
แต่นี่ระยะหลังมาจากทั้งมหาวิทยาลัยรามาและเชียงใหม่
กระแสเสียงที่กระหึ่มขึ้นอย่างกึกก้องนับแต่เดือนมิถุนายนต่อเนื่อง มายังเดือนกรกฎาคม ก็คือกระแสเสียงของบุคลากรทางการแพทย์ ที่ต้องการวัคซีนซึ่งมิใช่วัคซีน “หลัก” ที่รัฐบาลจัดหามาให้
ตรงกันข้าม เป็นโมเดิร์นนา เป็นไฟเซอร์ เป็นจอห์นสันต่างหาก
ยิ่งความต้องการไฟเซอร์ โมเดิร์นนา จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน ขึ้นสู่กระแสสูง ยิ่งทำให้เกิดความแคลงใจต่อวัคซีน “หลัก” ที่มีในมือ
