FootNote : สถานการณ์ลอบยิง “ไฮโซธนัธ” สถานการณ์กระสุนจริงในม็อบ

มีสถานการณ์ 2 สถานการณ์จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองนับแต่วันที่ 1 สิงหาคมเป็นต้นมา ที่ทำให้สถานการณ์ได้เปลี่ยนแปลงไปอีกก้าวที่มิอาจหวนกลับมาได้อีก
1 ย่อมเป็นสถานการณ์ที่มีการยิงเข้าใส่ “ไฮโซธนัธ” ระหว่างที่ปราศรัยอยู่บนรถของ “กลุ่มทะลุฟ้า”
เป็นการยิงอย่างชนิด “เล็งเห็นผล” และด้วย “อาวุธ” เด่นชัด
ขณะเดียวกัน 1 ย่อมเป็นสถานการณ์ที่มีการใช้ “กระสุนจริง” ยิงเข้าใส่เยาวชนอย่างน้อยก็ 3 คน กระทั่งคนหนึ่งกระสุนได้ค้างอยู่ภายในแผงสมองและยังไม่ทราบว่าเป็นชนิดใด
2 ปรากฏการณ์นี้ได้กลายเป็น “เส้นแบ่ง” อย่างสำคัญเท่ากับชี้ให้เห็นถึงการยกระดับสถานการณ์ไปสู่ความร้ายแรงและรุนแรงสูงขึ้นเป็นลำดับ
คำถามอยู่ที่ว่า “กระสุนจริง” นั้นเป็นการลั่นมาจากที่ใด
คำถามอยู่ที่ว่า ทุกปฏิบัติการนี้มีเป้าหมายใดในทางการทหาร และในทางการเมือง
เป็นคำถามไปยังตำรวจ เป็นคำถามไปยังรัฐบาล

เหตุที่เป็นการถามไปยังตำรวจ เหตุที่เป็นการถามไปยังรัฐบาล เพราะรัฐบาลอยู่ในฐานะเป็นผู้กุมกลไกอำนาจรัฐ และได้มอบหมายให้ตำรวจเป็นผู้รักษาความสงบ
การรักษาความสงบของตำรวจในที่นี้เป็นการรักษาความสงบในกรอบของกฎหมายเพื่อคุ้มาครองการแสดงออกของประชาชน
ความรุนแรงของสถานการณ์อันเนื่องจากกรณีของ “ไฮโซธนัธ” เด่นชัดอย่างยิ่งว่าเป็นการยิงอย่าง “เล็งเห็นผล” จากอาวุธและผู้ควบคุมซึ่งชำนาญอย่างเป็นพิเศษ
เป้าหมายเพื่อการสั่งสอน เป็นการเตือน มากกว่าจะมุ่งเอาชีวิต
ขณะที่การยิงต่อเยาวชนจำนวน 3 คนยังไม่แน่ชัดว่ามาจากใด
และเป็น “กระสุนจริง” ตามบทสรุปเบื้องต้นของสังคมหรือไม่

ทั้งหมดนี้ล้วนเป็น “โจทย์” อันทรงความหมายยิ่ง ไม่เพียงแต่จะตรวจสอบประสิทธิภาพในการสืบสวนสอบสวนของเจ้าหน้าที่เท่านั้น หากแต่ยังต้องทำความกระจ่างในกระแสแห่งความแคลงคลางกังขา
แคลงคลางกังขาต่อบทบาทและการเคลื่อนไหวของ “หน่วยควบ คุมฝูงชน” (คฝ.) ที่ปรากฏ ณ เบื้องหน้าประชาชน
เพราะหากไม่กระจ่างก็จะยิ่งคลางแคลงและกังขาเป็นทวีคูณ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน