โหรดังทักดวงเมือง – สถานการณ์บ้านเมืองวันนี้ ด้านนอกสภา การชุมนุมขับไล่รัฐบาลกลับมาคึกคักอีกครั้ง

ส่วนในสภา การอภิปรายไม่ไว้วางใจเป็นไปอย่างเข้มข้น ท่ามกลางแรงกระเพื่อมภายในรัฐบาล

จนหลายฝ่ายจับตาถึงการเปลี่ยนแปลงที่อาจเกิดขึ้น

แล้วมุมมองของนักโหราศาสตร์ คิดเห็นประการใด

ภิญโญ พงศ์เจริญ

นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ

ช่วงนี้มีดาวเดินถอยหลังถึง 3 ดวง คือพฤหัสฯ เสาร์ มฤตยู ซึ่งมีผลต่อดวงเมืองทั้งสิ้น และดาวพฤหัสฯ ยังย้ายข้ามราศีแบบผิดปกติ ภาษาโหรเรียกว่าพักราศี โดยถอยหลังจากราศีกุมภ์เข้าราศีมังกร ถอยหลังตั้งแต่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา จะข้ามราศี 28 ก.ย.นี้

กุมภ์คือลาภะ หมายถึงสภา การออกกฎหมาย การจัดเก็บภาษี นโยบายของชาติ มังกรเป็นกัมมะ หมายถึงการบริหารราชการแผ่นดิน ผู้รับผิดชอบการบริหาร ซึ่งก็คือรัฐบาลคณะรัฐมนตรี

การเดินถอยหลังแปลว่าไม่คืบหน้า หรือถดถอย ส่งผลให้เกิดการทบทวน ตรวจสอบ มีการแก้ไขปัญหาอุปสรรค พฤหัสฯ หมายเป็นดาวครู หมอ กฎหมาย ศาสนา การต่างประเทศ เมื่อโคจรวิปริตกิจการในความคุ้มครองของพฤหัสฯ ก็ไม่คืบหน้า

อิทธิพลของดาวพฤหัสฯ ต่อดวงเมืองทำให้เกิดความล่าช้า สับสนวุ่นวาย ต้องมีการทบทวนแก้ไขเรื่องต่างๆ ที่สำคัญการถอยหลังที่เป็นแบบข้ามราศีนั้นเป็นการข้ามภพส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในระดับนโยบาย

ผสมโรงกับการถอยหลังพร้อมกันของดาว 3 ดวง การถอยหลังก็จะยิ่งถดถอย และยังเป็นการถอยหลังพร้อมกันของดาวใหญ่ 2 ดวงในราศีเดียวกันอีกด้วย คือดาวพฤหัสฯ ถอยจากกุมภ์เข้ามังกร ขณะที่ดาวเสาร์ก็ถอยหลังอยู่ในราศีมังกร

เป็นการถอยหลังของดาวใหญ่ที่เป็นประธานฝ่ายศุภเคราะห์ และบาปเคราะห์ ในเรือนชะตาที่ 10 ที่หมายถึง รัฐบาล ครม. ผู้บริหารราชการแผ่นดิน โดยที่ดาวทั้งคู่เป็นดาวแห่งการเปลี่ยนแปลง จึงมีแนวโน้มว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย

ช่วงนี้เรื่องปรับครม.ก็น่าจะเป็นไปได้ เนื่องจากมฤตยูถอยหลังตรงราศีเมษ ซึ่งเป็นที่ตั้งของเรือนชะตาที่ 1 ของชะตาเมืองที่หมายถึงประเทศชาติ ประชาชน ดินแดน ดังนั้นตอนนี้อาจเป็นแค่การปรับครม.

พฤหัสฯย้าย 28 ก.ย.นี้ แต่พอเข้ามังกรจะหยุดนิ่ง 1 เดือน แล้วเปลี่ยนเดินหน้า 28 ต.ค.นี้ ช่วงนี้พฤหัสฯ โคจรวิปริต จะวุ่นวาย นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลง และหลัง 28 ต.ค.เดินหน้าแล้วก็ไม่คลี่คลาย เนื่องจาก พ.ย. กับ ธ.ค.เกิดคราสตรงราศีพิจิกและพฤษภ 2 ครั้ง

ดังนั้น พ.ย.ไปจนถึง ธ.ค.ต้องระวังเหตุการณ์บ้านเมือง อุบัติภัย ภัยธรรมชาติ จะเห็นว่าราหูอยู่ตรงพฤกษภ เป็นราหูค้นทรัพย์แล้ว 19 พ.ย. ยังจะเกิดอุปราคา ภายใต้ราศีพฤกษภ

จะมีปัญหาการเงิน งบประมาณ การเงินประเทศจะเสียหายครั้งใหญ่ มีปัญหาเกี่ยวกับการค้า การเงิน ยุ่งยาก ล้มเหลว ธนาคาร สถาบันการเงินจะตกอยู่ในภาวะคับขัน เกิดความผันแปรเรื่องรายได้ ภาษีอากร

และยังเกิดอุปราคาในราศีพิจิก 4 ธ.ค. ภพมรณะของดวงเมือง จะเกิดความอับโชคแก่รัฐบาล จะมีคนตายจำนวนมาก บุคคลสำคัญหรือบุคคลชั้นสูงจะถึงแก่กรรม สุขภาพประชาชนเสื่อมโทรม เจ็บไข้ โรคระบาด อาชญากรรมร้ายแรง หรือเกิดความ ปั่นป่วนในวงการเงิน วงการเมือง

เรื่องโรคระบาดก็เกี่ยวกับดาว 3 ดวงนี้ ดาวเสาร์หมายถึงโทษ ทุกข์ โรคภัยไข้เจ็บ พฤหัสฯ คือ หมอ และการรักษา ในตำราระบุ ……ดาวเสาร์มณฑ์นั้นทายว่าศึกมี เกิดอันตรายวัวควายจะตายห่า จะร้อนราษฎร์ประชาทั่วกรุงศรี …เป็นคำทำนายที่นิพนธ์ของพระพุทธโฆษาจารย์ ช่วงนั้นก็เกิดโรคระบาด

และมฤตยูอยู่ราศีเมษ ปกติก็เกิดโรคระบาด เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่สำคัญ แถมโคจรวิปริตและทำมุมสัมพันธ์

พฤหัสฯ ถอย เสาร์ก็ถอย มาอยู่มังกร ทำมุมฉากกับมฤตยูที่อยู่ราศีเมษ มุมฉากเป็นมุมขัดแย้ง มุมร้าย และเป็นดาวใหญ่ ดาวแห่งการเปลี่ยนแปลงแห่งยุคสมัย เพราะฉะนั้นก็ต้องเกิดการเปลี่ยนแปลง

โควิดและปัญหาความรุนแรงยังมีอยู่ จนกว่าดาว 3 ดวง จะเดินหน้า ซึ่งพฤหัสฯ จะเดินหน้า 28 ต.ค.นี้ เสาร์เดินหน้า 26 ต.ค.นี้เช่นกัน ดังนั้นสถานการณ์จะเริ่มคลี่คลายปลายต.ค. แต่มีปัญหาว่ามฤตยูนานกว่านั้น อาจถึงปลายปีนี้หรือต้นปี 2565

ช่วงต่อไปคือปี 2565 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่านี้อีก หากย้อนดูพระเสาร์ที่โคจรถอยหลังภายใต้ราศีมังกร พระเสาร์มีอัตราการโคจร 1 ราศีใช้เวลา 2 ปีครึ่ง 12 ราศี ใช้เวลา 30 ปี จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในรอบ 30 ปี

ศึกษาจากดวงดาวย้อนไปทุกๆ 30 ปี ย้อนกลับไปในปี 2535 มีเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ แต่เนื่องจากต่างกาลเทศะ เหตุการณ์ไม่เหมือนกัน แต่ส่งผลกระทบเหมือนกัน ปี 2505 สมัยจอมพลสฤษดิ์ ปี 2475 เกิดการปฏิวัติสยาม เปลี่ยนแปลงการปกครอง

ต้องจับตาช่วงมฤตยูย้ายราศี 7 ก.ค. 2565 จากเมษเข้าสู่พฤษภ ก่อนย้ายน่าจะมีเหตุการณ์สำคัญ เนื่องจากสวนกับราหู ดาวบาปเคราะห์ใหญ่ 2 ดวง สวนกัน ครบวงรอบ 18 ปีของราหู จะเกิดปัญหาเช่นเดียวกับปี 2547 ที่เกิดสึนามิ และการประท้วงเดินขบวนไล่รัฐบาลทักษิณ ก่อนการยึดอำนาจ และครั้งนี้มฤตยูอยู่เมษ เพิ่มพลังบาปพระเคราะห์แรง ปี 65 จะเกิดอุบัติภัยร้ายแรง

สำหรับดวง พล.อ.ประยุทธ์ ลัคนาอยู่มังกร ดาวพฤหัสฯ และดาวเสาร์ทับพอดีในดวงชะตาเกิด จะเกิดการเปลี่ยนแปลง และดาวเสาร์ในดวงชะตาไปสถิตราศีตุล มาทับลัคนาต้องระวังอย่างยิ่ง

ตามตำราเตือนดาวเสาร์ทับลัคนา มีบทพยากรณ์ตามคำภีจักรทีปนี “เสาร์จรประทับลัคน์ คนนั้นจะหม่นหมอง เสียทรัพย์และสิ่งของ ครุเหตุจะพึงมี ดังโปริศาทราษ-ฎรนั้นก็ขับหนี จากขัติยาศรี ศิริราชนคร” ซึ่งแปลแล้วว่า ษ-ฎร นั้นก็ขับหนี

วสุวัส คำหอมกุล

โหรชื่อดัง

ดาวพฤหัสฯ จะย้าย 29 ก.ย.นี้ สถานการณ์จะเหมือนต้นปีที่ผ่านมา อันเนื่องจากพฤหัสฯ ย้ายตั้งแต่ปลายปี 2563 ซึ่งสถานการณ์โควิดเริ่มเบาลง เหมือนตอนนี้ที่สถานการณ์ของโรคเริ่มเบาลง ยอดผู้ติดเชื้อทยอยลดลง

สถานการณ์ทางการเมืองก็เช่นกัน เหมือนช่วงปลายปีที่แล้ว ที่อาจมีการปรับเปลี่ยน มีการปรับครม. เปลี่ยนแปลงตำแหน่งของรัฐมนตรีบางคน

แต่บังเอิญครั้งนี้ ดาวพฤหัสฯ ย้ายกลับมาถาวรและมาเจอ ดาวเสาร์ ซึ่งโคจรที่วงเปลี่ยนแปลงเหมือนกัน การโคจรมาเจอกันจะมีผลให้เกิดการปรับเปลี่ยน หรือมีวิกฤตอื่นเข้ามาด้วย จะเห็นว่านายกฯมีปัญหามากมายรุมเร้า

ต้องตามดูช่วงปลายเดือนต.ค. หรือเดือนธ.ค. มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในรัฐบาล รัฐบาลมีการดึงพรรคร่วมเข้ามาใหม่ หรือน่าจะมีรัฐมนตรีคนใหม่ๆ หรือดึงคนนอกเข้ามาร่วมงาน หรือถ้ายื้อไปรอจนดาวขยับสุดในเดือน ธ.ค.อาจเป็นการยุบสภา ต้องรอดูกันยาวๆ

ขณะที่การเคลื่อนไหวทางการเมืองจะรุนแรงมากขึ้นการชุมนุมที่วันนี้จุดเคลื่อนไหวใหญ่คือในกทม. จะขยายไปตามหัวเมืองใหญ่ๆ ในหลายจังหวัด และน่าจะมีเสียงแตกในรัฐบาล

แต่ที่ต้องจับตาคือเดือนต.ค. ปัญหาเรื่องสังคม จะมีเรื่องคดีความ การฟ้องร้องซึ่งเป็นข่าวโด่งดัง สังคมให้ความสนใจอย่างมาก คนที่ถูกฟ้องร้องจะเป็นคนดัง มีชื่อเสียง ข้าราชการระดับใหญ่ อาจเป็นระดับปลัดกระทรวง

หรือเป็นประธานองค์กรซึ่งเป็นคนที่สังคมนับหน้าถือตา เป็นคนในตระกูลดัง ตระกูลใหญ่ มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักที่มีภาพลักษณ์ดี คนทั่วไปมองว่าเป็นคนดี ไม่คาดคิดว่าจะตกเป็นคดีความ จะมีเรื่องเสียหาย ต้องขึ้นโรงขึ้นศาล ถูกพิจารณาความผิด

อีกเรื่องคือประเด็นอาชญากรรม อาจสู้ไม่ได้กับคดีความที่อยู่ในความสนใจของสังคมเหมือนตอนนี้ แต่ก็จะเป็นประเด็นที่สังคมให้ความสนใจ

เรื่องภัยพิบัติ เดือนส.ค.และก.ย.ในช่วงนี้ เรื่องไฟไหม้ อุบัติเหตุ ปัญหาเกี่ยวกับฟืนไฟลดลง แต่จะมีปัญหาเรื่องเกี่ยวกับน้ำท่วมทำให้บ้านเมืองเสียหาย ซึ่งจะเกิดขึ้นรอบๆ กรุงเทพ ช่วงเดือนต.ค.นี้

ส่วนเรื่องโรคระบาด โรคโควิด-19 จะเบาลงแต่ไม่ได้หมายความว่าหมดไป โรคนี้ยังอยู่ไปจนปี 2565 ช่วงเดือนม.ค. อาจกลับมาอีกรอบ แต่ก็ไม่เท่าช่วงกลางปีที่เพิ่งผ่านไป ถือว่าผ่านช่วงพีกมาแล้ว ส่วนโรคอื่นๆ ยังไม่มีอะไร

ส่วนดวงของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม ส่วนตัวไม่ได้มีข้อมูลเรื่องการตกฟากที่ชัดเจน แต่ดูคร่าวๆจากวันเดือนปีเกิด ดวงตัวนายกฯวิบากกรรม ส่งผลราหู ดาวจันทร์ เมื่อทำอะไรไม่ดี จะมีผู้คนออกมาวิพากษ์วิจารณ์รุนแรง มีเรื่องให้เสื่อมเสียชื่อเสียงจำนวนมาก ผู้คนไม่ไว้วางใจ

ลูกน้องบริวารที่เคยเชื่อใจกันเริ่มไม่วางใจกันแล้ว หรืออาจไม่สามารถช่วยเหลือได้แล้ว

แต่ในมุมกลับกันยังมีผู้ใหญ่ที่คอยสนับสนุนอยู่ ดังนั้นสถานการณ์อาจไม่ถึงขั้นต้องยุบสภา ยังมีผู้ใหญ่หนุนอยู่ ยังมีผู้ใหญ่เป็นตัวช่วย ช่วงนี้ดาวพฤหัสฯยังโคจรอยูในตำแหน่งดี เพราะโคจรย้ายกลับมาทับลัคนา แต่อย่างไรก็จะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างที่กล่าวคือการดึงพรรคอื่นมาร่วมรัฐบาล

เพราะดวงนี้ถ้ายุบสภาก็จบชีวิตทางการเมือง เพราะดาวเสาร์มาเจอดาวจันทร์ ทำมุม 90 หรือ 180 หรือทับกัน เหมือนกรณียุคของนายทักษิณ ชินวัตร ที่ยุบสภาแล้วไม่ได้กลับมาเป็นนายกฯอีก

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจปีนี้ ช่วงปลายปีคิดว่าธุรกิจทั้ง การค้าขาย การท่องเที่ยว การขนส่ง จะเริ่มกลับมาเดินหน้าได้และต้นปีหน้าธุรกิจที่จะสร้างชื่อเสียงเป็นที่รู้จักคือธุรกิจที่เกี่ยวกับวงการบันเทิง อาจมีหนังไทยที่เข้าฉายในโรงภาพยนตร์แล้วทำรายได้ชนิดถล่มทลาย เรียกว่าวงการบันเทิงจะกลับมาสร้างความฮือฮาอีกครั้ง

รองลงมาคือธุรกิจสตาร์ตอัพ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวกับการส่งออก เกี่ยวกับพืชผลทางการเกษตร วัตถุดิบ เครื่องปรุง

ในส่วนของรัฐบาลต้องมีการกู้เงินเพิ่มอีกรอบ ช่วงปลายต.ค.นี้ เพราะยังอยู่ในช่วงดาวราหูล้วงทรัพย์

สำหรับสถานการณ์เศรษฐกิจของประเทศ คิดว่าเดือนเม.ย. 2565 น่าจะกลับมาสู่ความเป็นปกติ หมายถึงธุรกิจต่างๆ จะกลับมาดำเนินการต่อได้

ในขณะที่สถานการณ์บ้านเมือง ต้องจับตากันตั้งแต่เดือนเม.ย.-ธ.ค.2565 จะเกิดการเปลี่ยนแปลงแบบรายสัปดาห์ เพราะตั้งแต่เดือนเม.ย.ดาวพฤหัสฯ ขยับอีก เช่นเดียวกับดาวมฤตยู ซึ่งทำองศาทับลัคนา และดาวราหูเข้ามาทับดวงเมืองด้วย

ดาวราหู มฤตยู พฤหัสฯ จะมาเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ที่มองเห็นได้จากตอนนี้ น่าจะเป็นเรื่องของการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งปีนี้แม้มีการแก้ไขแต่อย่างไรก็ยังไม่จบ น่าจะเป็นประเด็นใหญ่ที่สำคัญหลังเดือนเม.ย.2565

ที่ต้องระวังคือหลังเดือนพ.ค.เป็นต้นไป จะเกิดความรุนแรง การใช้กำลังทหาร การชุมนุมอาจเพิ่มความเคลื่อนไหวนำไปสู่การนองเลือด แต่เหตุการณ์จะไม่ถึงขั้นแบบเดียวกับเหตุการณ์ชุมนุมของกลุ่มเสื้อแดง คิดว่าเหตุการณ์จะบานปลายจนมีผู้เสียชีวิต แต่จำนวนผู้เสียชีวิตยังไม่มากขนาดนั้น

เนื่องจากยุคสมัยเปลี่ยนไป แต่การเคลื่อนไหวต่อต้านจะมีแรงกระเพื่อม จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน