FootNote:จับตา ปรับครม. เดือนตุลาคม จับตาเส้นทางรุ่ง ‘ปลัด ฉ.ฉิ่ง’

ยิ่ง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ออก ‘เดินสาย’ ตรวจราชการในท่ามกลางข่าวลือการแยกตัวออกไปจัดตั้งพรรคการเมืองใหญ่ จากการที่ได้ตระเตรียมเอาไว้ยิ่งมีความแจ่มชัด

เป็นความแจ่มชัดไม่เพียงแต่บทบาทของ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา มีความโดดเด่นเคียงข้าง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

หากยังเป็นบทบาทของ นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่แยกตัวออกมา

ใครก็ตามที่ติดตามบทบาทการเดินสายทางการเมืองของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จากสมุทรปราการ ชัยนาท ชลบุรี เพชรบุรีไปยังสุโขทัย ก็จะมองเห็นขบวนที่แวดล้อม

วอลเปเปอร์ใน 4 จังหวัดแรกเป็น พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา กับนายสุชาติ ชมกลิ่น มีเพียงสุโขทัยเท่านั้นที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา นำ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ปลัดกระทรวงมหาดไทยเข้าร่วม

เส้นทางของ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ จึงน่าศึกษาน่าติดตาม

เพราะหาก นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เกษียณจากราชการเมื่อสิ้นเดือนกันยายน ทิศทางในทางการเมืองจะดำเนินไปอย่างไร

จะได้ดำรงตำแหน่งเป็น ‘รัฐมนตรี’ ตามข่าวลืออื้ออึงหรือไม่

ต้องยอมรับว่าการปลด ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นางนฤมล ภิญโญสินเลิศ ออกจากรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 8 กันยายน ทำให้ตำแหน่งรัฐมนตรีว่างลง 2 ตำแหน่ง

นั่นคือ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั่นคือรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน

ไม่ว่าข่าวลือที่ว่า นายสุชาติ ชมกลิ่น ที่จะผลักดันคนเข้าไป 2 คน ไม่ว่าข่าวลือที่ว่าภายในพรรคพลังประชารัฐ ที่จะผลักดันคนจากในพรรคเข้าไป 2 คน

ทุกข่าวล้วนมีชื่อของ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ หรือ ‘ปลัด ฉ.ฉิ่ง’ ร่วมอยู่ด้วยทั้งสิ้น

คำถามอยู่ที่ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา จะตัดสินใจเช่นใด

หากการปรับครม.ภายในเดือนตุลาคมมีชื่อของ นายฉัตรชัย พรหมเลิศ เข้ามาเป็นรัฐมนตรี นั่นหมายถึงแนวโน้มและความเป็นไปได้ ที่จะมีพรรคการเมืองสำรองเด่นชัด

เท่ากับยืนยันการดำรงอยู่ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา

เป็นการดำรงอยู่โดยมีพรรคการเมืองใหม่เป็นคู่แฝดกับพรรคพลังประชารัฐ อันเป็นพรรคการเมืองเดิม พรรคการเมืองพื้นฐาน

ทุกอย่างดำเนินไปภายใต้ยุทธการ ‘แยกกันเดิน ร่วมกันตี’ ชัด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน