FootNote ร่องรอย ปะทะขัดแย้ง การเมือง ประชาธิปัตย์ กับ พลังประชารัฐ
ปฎิกิริยาจาก”ภายใน”พรรคประชาธิปัตย์ กรณี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แบ่งงานในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้ พล.อ.ประ วิตร วงษ์สุวรรณ สะท้อนนัยะอะไรในทางการเมือง
น่าสังเกตว่าเป็น”ปฎิกิริยา”ที่ไม่เพียง นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ จะสะท้อนออกอย่างตรงไปตรงมาเท่านั้น
ตรงกันข้าม ปฏิกิริยาอันมาจาก “หัวหน้าพรรค” แสดงให้เห็นรูปธรรมของความรู้สึกซึ่งดำรงอยู่ระหว่าง”กลุ่มไลน์”ของพรรคประชาธิปัตย์อย่างคึกคัก
นำไปสู่คำถามจากโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ว่า หากมีการแบ่ง งานในกระทรวงของพรรคพลังประชารัฐให้มาอยู่ในมือรองนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นอย่างไร
คำถามนี้เป็นคำถามถึง”มารยาท”และความเป็น”สุภาพบุรุษ” ในทางการเมือง ถามโดยตรงไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และรวมถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ อีกด้วย
คำถามนี้จะเรียบร้อยมากยิ่งกว่านี้หากเกิดขึ้นในห้วงข้าวใหม่ ปลามัน แต่เมื่อมาถึง”ปลาย”ของรัฐบาลก็ย่อมร้อนแรง คุกรุ่น
ต้องยอมรับว่า การเข้าร่วมรัฐบาลโดยการสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นการยอมรับที่มีทั้งการร่วมมือและการต่อสู้
เนื่องจากพรรคประชาธิปัตย์มีแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว นั่นก็คือ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ
จากมติในที่ประชุมพรรคเช่นนี้เองส่งผลอย่างฉับพลันทันใดทำให้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ลาออกจาก ส.ส.เพื่อเปิดโอกาสให้พรรค ประชาธิปัตย์เดินหน้าได้อย่างเต็มที่
พรรคประชาธิปัตย์จึงมีมติออกมาในการเข้าร่วมอย่างมีเงื่อนไข นั่นก็คือ ต่อรองในเรื่องนโยบายและในเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญ
เงื่อนไขทั้งหมดนี้เป็นเรื่องของศักดิ์ศรีและทิศทางทางการเมือง
ระยะเวลาที่เหลืออีกเพียง 1 ปีเศษก็จะครบวาระในเดือนมีนาคม 2566 ทำให้พรรคประชาธิปัตย์จำเป็นต้องแสดงท่าทีและความรู้สึกออกมาอย่างแน่ชัด เพราะหากสยบยอมอย่างไม่มีการต่อรองใดๆทางการเมือง
นั่นหมายถึงศักดิ์ศรีที่จะต้องสูญเสียไปให้กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ
จากนี้เป็นต้นไปการปะทะและขัดแย้งจะยิ่งทวีความแหลมคม
